(ภาพ : themysteriousindia)
เทศกาลโฮลี เป็นเทศกาลของชาวฮินดูซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ปีละสองวันในช่วงเดือนมีนาคม เทศกาลนี้เรียกอีกอย่างว่า “เทศกาลแห่งสีสัน” โดยทุกคนจะสาดผงสีใส่กันอย่างสนุกสนาน หรืออาจจะสาดน้ำใส่กัน คล้ายๆ สงกรานต์บ้านเรา รูปแบบของการเฉลิมฉลองเทศกาลโฮลีนี้เทียบได้กับสงกรานต์ของไทย คือมีการสาดน้ำใส่กันแต่เป็นน้ำที่ผสมสีสันต่างๆ บ้างก็ไม่ใช้น้ำ แต่ใช้ผงสีซัดใส่กันหรือป้ายหน้าป้ายตัวกันอย่างสนุกสนาน นิยมเล่นกันในเวลาเช้าถึงเที่ยงวันก็เลิก ต่างคนต่างกลับบ้านไปอาบน้ำและพักผ่อน พอตกตอนเย็นจะออกมาพบปะสังสรรค์กัน แจกขนมหวานและสวมกอดกัน เทศกาลโฮลี่จึงถือเป็นเทศกาลแห่งมิตรภาพ มิตรสหายได้แสดงไมตรีเข้าสวมกอดกัน ผู้ที่เคยขัดแย้งกันก็จะได้ปรับความเข้าใจและคืนสู่มิตรภาพนั่นเอง
ด้วยความเก่าแก่ของอารยธรรมอินเดีย และความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทำให้เทศกาลโฮลี ถูกเชื่อมโยงกับตำนานต่างๆ มากมาย เช่น เรื่องการเผานางโหลิกา น้องสาวของอสูรหิรัณยกศิปุ ในตำนานนารายณ์อวตารเป็นนรสิงห์, เรื่องการเล่นโฮลีอย่างสนุกสนานระหว่างพระกฤษณะกับนางโคปีทั้งหลาย เป็นต้น ดังนั้นในคืนก่อนวันโฮลีตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ จะรวมกลุ่มกันจัดพิธีเผานางโหลิกา เพื่อพิธีเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่า การทำร้ายเบียดเบียนกันในสังคม ตลอดจนความชั่วร้ายต่างๆ จะถูกเผาทำลายไป ธรรมะมีชัยชนะเหนืออธรรม
สงกรานต์หลวงพระบาง ประเทศลาว
(ภาพ : louangprabang )
"สงกรานต์หลวงพระบาง" ใน สปป.ลาว ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานสงกรานต์แห่งอุษาคเนย์ที่ยังคงรักษารูปแบบประเพณีดั้งเดิมที่งดงามด้วยขนบธรรมเนียมและวิถีอันเรียบง่ายแต่คลาสสิกของชาวลาวไว้ เมืองหลวงพระบาง เป็นอดีตเมืองหลวงเก่าของ สปป.ลาว ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2538 ทุกๆ ปีในช่วงสงกรานต์ เมืองหลวงพระบางจะคึกคักมีชีวิตชีวาไปด้วยบรรยากาศของงานบุญปีใหม่ ชาวลาวที่เดินทางไปทำงานหรือไปอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็จะพาลูกหลานกลับมาหาญาติพี่น้อง กลับมาร่วมงานบุญกันพร้อมหน้าพร้อมตา อีกทั้งบรรดานักท่องเที่ยวจากต่างแดนก็เดินทางเข้ามาร่วมสัมผัสประเพณีดีงามในเมืองหลวงพระบางเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน
“สงกรานต์ลาว” จะแบ่งการจัดงานหลักๆ ออกเป็น 3 วัน
- วันแรกเรียกว่า “วันสังขารล่วง” ชาวบ้านจะทำความสะอาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปและเตรียมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา
- วันที่สองเรียกว่า “วันเนา” ถือเป็นวันแห่งครอบครัว เพราะญาติพี่น้องจะมารวมตัวกันเพื่อบายศรีสู่ขวัญให้แก่ผู้อาวุโส
- วันสุดท้ายเรียกว่า “วันสังขารขึ้น” ถือว่าเป็นวันปีใหม่ที่แท้จริง จะมีการบายศรีสู่ขวัญ อวยชัยให้พรซึ่งกันและกัน รวมถึงมีการสรงน้ำพระ และการแห่งนางสังขาร ซึ่งเป็นนางสงกรานต์ของลาวอีกด้วย
เหย่บะแวด่อ ประเทศพม่า
(ภาพ : Montfort College Primary Section)
สงกรานต์ของประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างพม่า ที่มีประเพณีขึ้นปีใหม่พร้อมเล่นสาดน้ำเช่นเดียวกับประเทศไทย เพียงแต่ที่พม่าไม่ได้เรียกว่า "สงกรานต์" แต่เรียกเป็นภาษาพม่าได้หลายคำ เช่น ตะจังบะแว ,ตะจังบะแวด่อ หรือ เหย่ตะเบง ที่แปลรวม ๆ กันว่า "พิธีหรือเทศกาลน้ำ" ซึ่งบรรยากาศก็คล้าย ๆ กับการร่วมชมคอนเสิร์ต ผิดก็แต่งานนี้ทุกคนโดนสาดน้ำจนเปียก บรรยากาศสงกรานต์ในพม่าดูจะสนุกสนานกันเต็มที่ โดยเฉพาะในเมืองย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ ตามถนนจะมีปะรำสำหรับการแสดงดนตรี ร้องรำ และเล่นสาดน้ำ ซึ่งส่วนงานราชการต่าง ๆ จะสร้างปะรำพิธี เพื่อให้ประชาชนเล่นน้ำและดูการแสดง โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติจะแพร่ภาพและเปิดเพลงสงกรานต์ครึกครื้นตลอดวัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำปะรำพิธีต่าง ๆ จะเดินสายยางฉีดน้ำไปยังผู้คนที่ผ่านไปมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น ทั้งนี้ แม้พม่าจะนิยมเล่นน้ำสงกรานต์แต่ก็ยกเว้นที่จะไม่สาดน้ำพระสงฆ์ ชี โยคี และผู้ถืออุโบสถศีล และผู้หญิงตั้งครรภ์ ประเพณีนี้จัดขึ้นทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี โดยตลอดระยะเวลาของงานทั้งสิ้น 4 วัน ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายนของทุกปี
โจลชนัมทเมย ประเทศกัมพูชา
(ภาพ : thaismescenter)
เทศกาลสงกรานต์กัมพูชา คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวกัมพูชา เป็นประเพณีโบราณเรียกกันว่า “โจลชนัมทเมย” จะจัดขึ้นในช่วงต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งแต่เดิมจัดตามจันทรคติ ต่อมาได้มีการเลื่อนไปจัดตามวันทางสุริยคติ ประมาณวันที่ 13 หรือ 14 เมษายน ปกติการเฉลิมฉลองปีใหม่ในเขมรนี้จะจัดขึ้น 3 วัน ในวันแรกเรียกว่า “วันมหาสงกรานต์ หรือวันปีใหม่”แต่ก่อนจะถึงวันปีใหม่ 3 วัน ทุกบ้านจะต้องจัดเตรียมอาหารและทำความสะอาดบ้านเรือน แต่งตัวด้วยดอกไม้และเครื่องหอม จัดโต๊ะบูชา
- สำหรับวันแรก ช่วงเช้าจะนำอาหารไปถวายพระ ช่วงเย็นจะมีการช่วยกันขนทรายเข้าวัด ช่วงหัวค่ำจะมีการช่วยกันก่อเจดีย์ทราย และเติมน้ำในตุ่มที่วัดให้เต็ม
- วันที่สอง คือ วันครอบครัว พ่อแม่ลูกและญาติพี่น้องจะมารวมตัวกัน อาจจะมีการให้ของขวัญกันเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ด้วย
- ส่วนวันที่สาม คือ วันเริ่มต้นศกใหม่ หรือเป็นวันเปิดศักราชใหม่ ช่วงเช้าจะนิมนต์พระมาสวดให้พร นอกจากนั้นยังมีการสรงน้ำพระพุทธรูปโดยใช้น้ำอบมาชำระล้างพระพุทธรูป รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีการละเล่นต่างๆ บริเวณวัด เช่น วิ่งกระสอบ เล่นลูกช่วง สะบ้า มอญซ่อนผ้า ฯลฯ
สิบสองปันนา มณฑลยูนาน ประเทศจีน
(ภาพ : TourTookTee.com)
เป็นประเพณีสงกรานต์ของชาวไต หรือชาวไท ในสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของจีน จะจัดงานสงกรานต์ประมาณวันที่ 13-15 เมษายน เรียกว่าเทศกาล พัวสุ่ยเจี๋ย มี การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองต่างๆ การแข่งขันเรือมังกรที่เป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้ การระบำนกยูง ร้องรำทำเพลง การละเล่นน้ำ และการรดน้ำดำหัวให้กันและกัน เชื่อว่าจะเป็นการชะล้างสิ่งไม่ดีออกไปจากตัว
"Wet Monday" สงกรานต์หลังวันอีสเตอร์ ประเทศโปแลนด์
(ภาพ : gonomad.com )
นอกจากงานสงกรานต์จะจัดขึ้นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังมีประเทศในแถบยุโรป ที่มีประเพณีสาดน้ำคล้ายๆ กับในบ้านเราเช่นกัน ประเพณีมีชื่อเรียกว่า “Wet Monday” เป็นประเพณีเก่าแก่ทางศาสนาที่นิยมจัดขึ้นในแถบยุโรปกลาง โดยเฉพาะในโปแลนด์ เช็ค สโลวาเกีย และยูเครน ประเพณีนี้จะจัดขึ้นในช่วงวันที่สองของเทศกาลอีสเตอร์ โดยจัดขึ้นตามความเชื่อของผู้นับถือศาสนาคริสต์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อน โดยจะใช้น้ำเป็นการชำระล้างบาปเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง เดิมนั้นประเพณี Wet Monday จะมีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่เป็นฝ่ายสาดน้ำใส่ผู้หญิง โดยผู้หญิงที่สวยที่สุดในหมู่บ้านจะถูกรุมสาดน้ำจนเปียกปอนมากที่สุด
-----
ปัจจุบันนี้ หากพูดถึงเทศกาลสงกรานต์ หรือ Water Festival คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงสงกรานต์ที่ประเทศไทยเป็นที่แรก เนื่องจากมีการโปรโมทกันมากมาย และพยายามยกระดับให้เป็นงานอีเวนท์ระดับโลก จนคนไทยหลายๆ คน ลืมไปแล้วว่า “สงกรานต์” เป็นประเพณีร่วมกันของคนที่มีความนับถือพระพุทธศาสนา และอาศัยอยู่ในแถบอาเซียนเช่นเดียวกัน การจะไปทึกทักว่าสงกรานต์เป็นของประเทศไทยเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก ความเข้าใจถึงที่มาและความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ต่างหาก ที่จะช่วยให้เราและเพื่อนบ้านอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์