[article] ความฉลาด 8 ด้าน..ด้านไหนเป็นของคุณ (1)

 
 
 

ปัญญา 8 ด้าน (Multiple intelligence)

 

เราใช้อะไรในการตัดสินว่าคนเก่ง หรือ ไม่เก่ง ? เราเคย IQ หรือ intelligence quotient เป็นตัววัดเริ่มต้นเมื่อ 1905 โดยการสอบ IQ ก็จะมีการวัดหลายอย่างเลยค่ะ แล้วเอาคะแนนมารวมกันก็จะเป็นความฉลาดของคนนั้นๆ ซึ่งเด็กที่เรียนเก่งกับเด็ก IQ ดีก็จะเป็นกลุ่มเดียวกันค่ะ

 

คนทั่วๆไปมี IQ ประมาณ 100 (90-109)   แต่ต่อมาเราก็เริ่มศึกษามนุษย์มากขึ้นและพบว่าปัญญาไม่น่าจะทดสอบได้ด้วย IQ test เพียงอย่างเดียว

 

ปลายศตวรรษที่ 18 (19xx) เริ่มมีการพูดกันมากขึ้นเกี่ยวกับปัญญาด้านอื่นๆ ซึ่งทำให้ผู้คนตื่นตัวว่าไม่ใช่แค่มีตรรกะดีและจำเก่งจะเป็นคนเก่งเท่านั้น ความสามารถอื่นๆก็สามารถเป็นปัญญาได้ด้วย

 

Howard Gardner คิดว่าความปัญญา (intelligence) ไม่ใช่ความสามารถในการถามตอบด้านภาษา มองภาพ หรือ คณิตศาสตร์เท่านั้น
 

ปัญญาคือความสามารถในการประมวลผลด้านต่างๆ … เอ แล้วความเป็นมนุษย์ จะสามารถประมวลผลได้ไหนบ้าง ใช้เวลากลั่นกรองความเป็นมนุษย์อยู่นาน โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ ก็บอกว่า ปัญญามี 8 ด้านจ้า (และลุงก็กำลังขบคิดอยู่เสมอมาว่า มันจะมีมากกว่า 8ด้านนี้ไหม)

 




ปัญญา 8 ด้านประกอบไปด้วย
 

1. ปัญญาด้านดนตรี ปัญญาด้านนี้จะมาคู่กับความเข้าใจเสียงสูงเสียงต่ำของดนตรี เด็กๆที่มีปัญญาทางด้านนี้จะจับเสียงได้แม่นกว่าปกติ และมีปฏิกิริยากับเสียงมากกว่าเด็กทั่วไป

 

ดนตรี (หมายถึงความสูงต่ำของเสียง)  มีความสำคัญกับมนุษย์ตั้งแต่สมัยยุคหินแล้ว เสียงสัตว์ เสียงธรรมชาติ ก็ถือว่าเป็นพื้นฐานของเสียงดนตรีค่ะ บางคนฟังเพลงเดียวกันแท้ๆ แต่เค้ากลับได้ยินเสียงดนตรีอะไรที่เราไม่ได้ยินตลอดเลย พอเปิดกลับไปฟัง อ้าว มีเสียงอย่างที่เค้าว่าจริงๆด้วย

 

2. ปัญญาด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย เคยสังเกตไหมคะ คนบางคนพอให้เล่นกีฬาเค้าก็จะทำได้ดีในระยะเวลาอันนั้นจนเราสงสัยว่าทำไปได้ยังไง สามารถเต้นโดยที่ขาไม่พันกัน สามารถใช้มือได้อย่างคล่องแคล่วในการปั้น ตัด พับ เหมือนคนเรานั้นมีเข็มทิศพิเศษที่รู้จักร่างกายตัวเองดีมากๆ คาดเดาได้หมดว่าจะขยับไปทางไหนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

 

3. ปัญญาด้านตรรกะ อันนี้เราน่าจะรู้จักกันดีบางส่วน ก็คือพวกที่ทำเลขเก่งนั่นเอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนที่ทำเลขไม่เก่งจะไม่มีปัญญาด้านนี้นะคะ เพราะบางคนก็แค่ไม่ได้ฝึกฝนมาเท่านั้นเอง

คนที่เก่งด้านตรรกะ จะชอบใช้เหตุผลมาหักล้าง มีการตั้งสมมติฐานแล้วก็คิดว่าแล้วไปยังไงต่อ คนที่มีพรสวรรค์ด้านนี้จะมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วกว่าคนอื่นค่ะ หลายครั้งๆ ก็เรียกคนเหล่านี้ว่ามี “จิตวิทยาศาสตร์”

 

4. ปัญญาด้านภาษา ปัญญาด้านนี้ไม่จำกัดอยู่ที่ภาษาพูดอย่างเดียว แม้แต่คนหูหนวกพูดไม่ได้ที่มีปัญญาพิเศษด้านนี้ก็จะสามารถใช้ภาษามือได้รวดเร็วกว่าคนอื่นเขาค่ะ นอกจากคนเหล่านี้จะชอบภาษาแล้ว ยังมีความสามารถในการหาคำพูดมาสื่อสารใช้ภาษาได้เด็ดขาดกว่าชาวบ้านเขาค่ะ อย่างสุนทรภู่แม้จะไม่ถนัดภาษาอื่น แต่ก็นับว่ามีปัญญาทางด้านนี้มากค่ะ



 

5.ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ .. คือ พูดภาษาชาวบ้านก็คือ คนไม่หลงทิศ กะระยะแม่น ค่ะ เวลาไปห้างใหญ่ๆ คนเหล่านี้เขาจะไม่หลงทางนะคะ (เมย์เนี่ย ต้องออกทางเดิมค่ะ เข้าทางไหน ออกทางนั้น ถ้าออกอีกทางจะหลงทิศเลย) บางคนสามารถกะขนาดได้ดี เวลาซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านนี่รู้เลยว่าอะไรต้องอยู่ตรงไหน

ความสามารถนี้ยังเลยไปถึงคนที่เล่นหมากรุกเก่งๆ สามารถเห็นภาพการเดินหมากเป็นฉากๆได้ในใจเลยค่ะ

 

6. ปัญญาด้านเข้าใจผู้อื่น บางคนก็เข้าอกเข้าใจคนอื่น เลยเถิดไปถึงราวกับว่าอ่านใจคนอื่นได้ เห็นว่าเขาต้องการหรือปรารถนาอะไรจริงๆ การที่มีปัญญาด้านนี้กอปรไปด้วยความเมตตาจะทำให้เราสามารถทำให้คนอยู่รอบๆเราอบอุ่นค่ะ นักสังคมสงเคราะห์ หรือ คุณครูที่ดีก็จะมีความเข้าใจผู้อื่นได้สูง รวมไปถึงนักขายที่เก่งๆด้วยค่ะ




 

7. ปัญญาด้านเข้าใจตนเอง คนที่มีปัญญาด้านนี้จะรู้จักอารมณ์ตัวเองในหลายมิติ จะรู้ว่าความเจ็บปวด ความสุขมีหลายด้าน และชอบใช้เวลานั่งสังเกตสิ่งรอบๆตัวด้วยค่ะ พอเห็นอารมณ์ความรู้สึกตัวเองแล้ว ก็เกิดความเข้าใจ และนำไปปรับปรุงพัฒนาลักษณะนิสัยของตนเองอีก

 

ถ้าพูดถึงเรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์แล้ว ปัญญาส่วนนี้เกิดได้ยากที่สุดเพราะว่าเกิดจากสมองใหม่ (คือสมองส่วนหน้า) ซึ่งต่างจากสมองสัญชาตญาณ ที่อยู่ตรงท้ายทอยที่เกิดขึ้นมากับสัตว์โลกและโลกใบนี้มานานแล้วค่ะ

 

ซึ่งปัญญานี้จะทำให้เกิดความตระหนักรู้ในตัวเองค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายและอารมณ์ของเรา

 

8. ปัญญาด้านเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจน้ำ เข้าใจฟ้า เข้าใจดิน เข้าใจสัตว์.. ปัญญานี้แปลกมากตรงที่ เด็กเล็กๆมักจะเก่งกันทุกคนค่ะ เด็กๆมักจะจดจำและแยกโครงกระดูกไดโนเสาร์ ฯลฯ เก่งกว่าผู้ใหญ่

เพราะมนุุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ปัญญาด้านนี้จึงทำให้เราแยกมิตร ศัตรู อาหาร นักล่าออกจากกันได้ คนที่เก่งด้านนี้จะสามารถแยกแยะสัตว์ ต้นไม้ พืชพรรณออกจากันได้อย่างง่ายดายค่ะ บางคนแค่เอากิ่งเล็กๆ ไม่มีใบมาให้ดูก็ทราบแล้วว่าเป็นต้นอะไรค่ะ

 

…. โอเค แล้วยังไงต่อ …

 

ผู้ปกครองเคยถามว่า แล้วจะให้พัฒนาสิ่งที่เก่งหรือไม่เก่งดีคะ ?

 

นั่นสินะ

 

คำตอบก็คือ พัฒนาได้ทั้งหมดเลยค่ะ ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กก็อาจจะพัฒนาไปทั้งหมดทุกด้านเพื่อให้มีความรู้พื้นฐานที่ครบถ้วน แต่ถ้าโตแล้วก็แล้วแต่ใจรักเลยค่ะ อยากจะลองสร้างเสริมสิ่งที่ไม่ถนัดดูบ้าง หรืออยากจะเสริมสิ่งที่ชอบและถนัดอยู่แล้วก็ย่อมได้

 

สำหรับการที่จะสร้างเสริมสิ่งที่ไม่ถนัด พอเรารู้แล้วว่าคนคนหนึ่งใช้ทักษะอะไรในการเรียนรู้มากเป็นพิเศษ เราก็มาเชื่อมโยงกันค่ะ เช่น สำหรับเด็กๆที่ชอบดนตรี เราก็อาจจะสอนเศษส่วนผ่านโน๊ตต่างๆของดนตรีที่มีความยาวต่างกัน

 

การเล่นตั้งเต + เกมส์คณิตศาสตร์ก็น่าสนุกสำหรับทั้งเด็กที่ชอบเคลื่อนไหวร่างกายและเด็กที่ชอบเลขค่ะ


วิทยาศาตร์ กับ ธรรมชาติ มีเยอะแยะมากเลยค่ะ ศึกษาเรื่องต้นไม้ หรือสัตว์ต่างๆ

 

การแต่งนิทานเล่าเรื่องก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบภาษานะคะ จะเอามาโยงกับวิชาอื่นๆก็ได้ และการเล่นเป็นทีมทำงานด้วยกันเป็นกลุ่มก็เหมาะสำหรับคนที่มีความสามารถในการเข้าใจคนอื่นด้วยค่ะ
มีคำกล่าวว่า “ทุกคนเป็นอัจฉริยะกันทั้งนั้น แต่ถ้าคุณจะตัดสินความเก่งของปลาโดยให้มันปีนต้นไม้ มันคงจะคิดว่ามันโง่ไปทั้งชีวิต”

 

หาปัญญาของตัวเองให้เจอนะคะ คนนึงมีได้หลายๆด้านเลยค่ะ :)

 

รู้จักกิจกรรมสนุกๆ พัฒนาศักยภาพตัวเองที่

https://www.facebook.com/EnjoyAllActivities

มาคุยกับครูเมย์ได้ที่
https://www.facebook.com/KruMayExplorer


 

ติดตามคุยกันในเพจได้ที่นี่
 

พูดคุยเป็นการส่วนตัว ทั้งเรื่องวิทยาศาสตร์ ความรู้ตัวได้ที่ @krumay



กรอกข้อมูลเพื่อรับข้อมูลมีประโยชน์ได้ที่นี่ คลิ๊กเลย

 

Created date : 14-08-2016
Updated date : 14-08-2016
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ
Post by : ครูเมย์ KruMayExplorer
ครูเมย์เชื่อว่า ความรู้ ไม่ได้สำคัญที่สุดในการเรียนหนังสือ มนุษย์คนนึงจะรู้ได้ซักเท่าไหร่กัน เมื่อเทียบกับความรู้ของโลกนี้ที่มีอยู่ อัจฉริยะไอน์สไตน์ จะรู้ได้ถึง 1% ของความรู้ในโลกนี้ไหม
วิทยาการพัฒนาไปไกลมาก เปลี่ยนไปเยอะมาก ตอนนี้ มันเป็นโลกของการแบ่งปัน - แบ่งกัน ความขี้สงสัย กับ ความเอื้ออาทรต่างหาก ที่พาให้โลกหมุนไปได้ ติดตามมาคุยกันได้ที่เพจ www.facebook.com/KruMayExplorer

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles