"พยุงไปต่อ" หรือ "สละเรือทิ้ง" 2 ทางเลือกของผู้ประกอบการในช่วงโควิด-19

ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ย่อมส่งผลกระทบต่อหลายส่วน ไม่ว่าจะในภาคธุรกิจใหญ่ๆ หรือจนมาถึงอาชีพที่หาเช้ากินค่ำ ซึ่งฐานการเงินไม่ว่าจะเล็กใหญ่ ก็ต่างอ่วมกันแน่ในช่วงนี้

ซึ่งหากมองแล้วการแพร่ระบาดขอไวรัสก็ไม่รู้จะจบลงตรงไหน  และไม่รู้จะฟื้นเศรษฐกิจได้ช่วงไหนเช่นกัน สำหรับคนที่ทำธุรกิจมันน่ากลัวมาก รวมถึงพนักงานในองค์กรต่างๆ ก็ระสำระส่ายกันหมด

ทางเลือกในภาคของธุรกิจตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ผู้ประกอบการคงต้องเลือกแก้วิกฤต แก้เกมส์ให้เร็ว ต้องตัดสินใจอย่างเฉียบขาด ซึ่งทางออกของวันนี้คงมีแค่  2 ทางใหญ่ๆให้เลือก
 

 

1.พยุงองค์กรและไปต่อ

ในสภาวะที่เศรษฐกิจย่ำแย่เพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทและผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งทางเลือกแรกก็คือ “พยุงองค์กร” และไปต่อ การทำแบบนี้สามารถทำได้ซึ่งมีหลายๆองค์กรทำอยู่ เพื่อประคับประคองให้ธุรกิจยังดำเนินต่อไป แต่ในการแบกภาระที่ท่วมท้น ต้องดูอีกทีว่าเราสามารถแบกภาระเหล่านี้ไว้ได้ไหม

เช่น เราไม่สามารถรับรู้ว่า ไวรัสดังกล่าวจะจบลงเมื่อไร เราต้องใช้เงินมากมายแค่ไหนในการพยุงต่อไป ลองคำนวณดูว่าเราจะพอมีเงินในการอุ้มบริษัทได้นานแค่ไหน มันคุ้มกับการที่เราจะทำแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งบางบริษัทไม่มีแม้แต่ออเดอร์เข้ามา หรือมีรายได้ที่น้อยกว่ารายจ่าย 

สุดท้ายแล้วเงินที่เราพยายามพยุงบริษัทหมดลง และเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่จบลง เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว วันนั้นสิ่งที่เราลงทุนอุ้มบริษัทไว้ก็อาจจะสูญเปล่า และสุดท้ายบริษัทก็อาจจะต้องปิดตัวลง
 

2.สละเรือทิ้ง และกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน และไม่สามารถรับรู้ได้ว่า มันจะสิ้นสุดตรงไหน ทางเลือกอีกหนึ่งทางก็คือ “สละเรือทิ้ง” และกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง การ “สละเรือทิ้ง” ก็เป็นอีกทางเลือกที่หลายองค์กรเลือกทำ อย่างเช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจทัวร์ เป็นต้น

หากเรามองตั้งแต่ช่วงกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 2 ธุรกิจนี้เริ่มปิดตัวลงกันมาก เพราะ เป็นเหมือนด่านหน้าที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผู้ประกอบการของ 2 ธุรกิจเหตุที่เลือกสละเรือก็เพราะว่า การมองเศรษฐกิจในระยะยาว และมองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแนงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาปิดกกิจการก่อนดีกว่า

เพราะ การอุ้มธุรกิจต้องใช้เงินมากมาย ในสภาวะที่ไม่มีออเดอร์เข้า และการพยุงบริษัทก็เหมือนจะเสียเงินไปเปล่าๆ ผู้ประกอบการที่ปิดกิจการเลยมองว่า “ธุรกิจไม่มีคำว่าสาย ค่อยกลับมาสลุยใหม่ได้ในเมื่อทุกอย่างดีขึ้น” แต่ในการปิดกิจการ และให้พนักงาน layoff ก็ต้องมีค่าชดเชย แต่ค่าชดเชยเหล่านี้ย่อมคุ้มกว่าการพยุงบริษัทเสียเงินแล้วแต่ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะดีตอนไหน

สำหรับผู้ประกอบการทางเลือกย่อมมีน้อยนัก แต่ถ้าต้องเลือกควรเลือกทางที่ดีที่สุดกับทุกคนในองค์กร อย่าให้ทุกคนต้องลพบากเกินกว่าที่พนักงานจะรับได้ สุดท้ายแล้วขอให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยกัน
.
.
ภาพจาก : https://bit.ly/2UF2rf3