สวัสดีครับผม AdminM ผมจะมาพูดเรื่องเกี่ยวกับการตลาดที่เปลี่ยนไปจากสถานะป้อนโฆษณาไปสู่ลูกค้า แต่ตอนนี้เรากลายเป็น Buffet ไปแล้ว เพราะเราจะต้องทำตัวเองให้เป็นตัวเลือก แล้วลูกค้าจะจะเลือกเองว่าจะเสพอะไร
ยุคนี้เป็นยุคที่คนหลายคนไม่ยอมให้สื่อโฆษณาเข้ามาง่ายๆล่ะ เราจะยอมรับโฆษณาเมื่อเราเลือกที่จะรับเท่านั้น ลองนึกดูนะครับ
เดี๋ยวนี้เวลาดูทีวีแล้วมีโฆษณา เราจะเปิดข้ามไปช่องอื่น หรือหยิบมือถือมากดอะไรเล่น
หรือถ้าดู Youtube แล้วมีโฆษณามาแทรกแค่เพียง 5 วินาที เรากดข้ามทันที หรือว่าถ้าอ่านเว็ปแล้วมี Banner ข้างๆ หรือแทรกตรงกลาง ไม่ว่าจะมีโฆษณาเยอะแค่ไหน เราสามารถมองข้าม และอ่านบทความรู้เรื่อง โดยที่ไม่รู้ว่าโฆษณาที่แทรกอยู่คืออะไรได้ เก่งขนาดนั้น!!!
ยังไม่รวมถึงว่าตอนนี้ทุกคนมีช่องทางเป็นของตัวเองจนไม่สนใจการสื่อสารผ่านช่องทางโฆษณาแบบมวลชน (Mass Media) อีกแล้ว นักการตลาดจะต้องกลายเป็นปรับคอนเท็นให้ตรงกับคนแต่ละคน และแต่ละสถานะที่เค้ากำลังเป็นด้วย
- แบบเดิมคือ เราหาลูกค้าให้เจอ และสื่อสารไปให้ถึง ถ้าเค้าสนใจเค้าจะโต้ตอบกลับมา แบบนี้เรียกว่า Outbound Marketing
- แบบใหม่คือ ลูกค้าหาเราเจอ และเราก็ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า โดยหน้าที่ของแบรนด์คือเตรียมสิ่งต่างๆที่ลูกค้าต้องการตามสถานะขณะนั้น เรียกว่า Inbound Marketing
สรุปเรามีสองอย่างคือ
- Outbound Marketing เน้นการส่งสารไปหากลุ่มเป้าหมายให้แม่น
- Inbound Marketing เน้นการตั้งรับ เตรียมคำตอบ ตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ โดยใช้ Content Marketing Funnel
คราวนี้เรามาเล่าให้ละเอียดกันเกี่ยวกับ Outbound Marketing
จุดเด่น
- เราจะสามารถส่งสารไปได้ไกลตามใจคิด
- สามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างรวดเร็ว ตามงบประมาณที่ใส่
- ทำได้ทันทีเพราะเน้นการซื้อโฆษณาเป็นหลัก
ข้อสังเกต
- มีค่าใช้จ่ายเยอะ เพื่อซื้อโฆษณา
- มีโอกาสที่ผู้รับสารอยู่ในภาวะไม่ได้อยากรู้ เพราะเราเป็นคนส่งข้อมูลไปให้เค้าในขณะที่เค้าอาจจะยังไม่อยากได้รับสาร
- ได้ผลน้อยลงเมื่อหยุดโฆษณา
มาต่อด้วยกับรายละเอียดเกี่ยวกับ Inbound Marketing กันบ้าง
จุดเด่น
- ใช้งบประมาณได้คุ้มค่า เพราะใช้ได้ระยะยาว
- สร้างความยั่งยืนกลับมาช่องทางตัวเอง
- การแข่งขันด้าน Search Engine ดี
ข้อสังเกต
- ใช้เวลานานกว่าจะได้ผล
- ต้องวางแผนเรื่อง Content Marketing Funnel เพราะต้องรู้ว่าคนที่เข้ามาจะอยู่ใน State ไหน
มี 3 เทคนิคง่ายๆที่จำเป็นในการเริ่มต้น Inbound Marketing มาฝาก
- Be Ready : เตรียมข้อมูลสำหรับทุกปัญหา ทุกความต้องการที่ตรงกับลูกค้าเราด้วย Content Marketing Funnel
เพราะเราไม่รู้เลยว่าลูกค้าเราจะติดอะไรในขั้นตอนไหน บางคนอาจเป็นแรกพบเรา หรือบางคนกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือกำลังต้องการอะไรบ้าง เราจึงต้องคาดเดาปัญหาต่างๆ หรือความต้องการต่างๆ ให้ตรงความต้องการ แต่ละขั้นตอน ถ้าไม่เข้าใจ ให้กลับไปดูบทความนี้ Content Marketing Funnel
ก็เหมือนกับการเปิดร้าน 7/11 เราก็ไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง เราจะทำได้เพียงมีสินค้าที่หลากหลายที่สุดโดยที่ต้องคาดเดาว่าถ้าร้านขายของสะดวกซื้อใกล้ชุมชนจะต้องการอะไรบ้าง ถ้าเป็นธุรกิจเรา เราก็ต้องคาดเดาว่าลูกค้าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง
2. Be Found : แน่นอนการทำ Inbound Marketing แกนสำคัญคือการทำให้เจอ จะมีประโยชน์อะไรล่ะ หากทำคอนเท็นต์ไปเพียบ แต่ไม่สามารถทำให้หาได้เจอ
ดังนั้น ขั้นตอนนี้จะต้องใช้กลยุทธ์หลายอย่าง เพื่อให้คอนเท็นต์เราถูกพบเจอ ไม่ว่าจะเป็น
- SEO ที่ต้อง optimize คอนเท็นต์ให้ถูกหลักการค้นหาใน Search Engine
- Social Network ที่ถูกแชร์ในกลุ่มเป้าหมายจนเกิดความสนใจ
- PPC ให้ Seach Engine คือต้องไปจ่ายตังส์กันบ้าง เพื่อโฆษณาพลักดันคอนเท็นเพื่อให้ถูกพบเจอใน Seach Engine
- etc.
3. Be Action : ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ เพราะการทำ Inbound Marketing จะมีประโยชน์เมื่อวัดผลได้ จริงมั้ย
ขั้นตอนนี้จึงเป็นขั้นตอนการสร้าง Call to Action เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น
- Lead Generation สร้างรายชื่อคนสนใจ สินค้าหรือบริการ
- Subscribe Social Media (FB, Line@, IG, etc...) สร้างยอดผู้สมัครผู้ติดตาม
- Download Count ยอดคนที่โหลดไฟล์
- Etc.
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการทำ Inbound Marketing ด้วย Content Marketing หาสงสัยอะไรสอบถามได้นะครับ
…Admin M
ติดตามคุยกันในเพจได้ที่นี่
พูดคุยเป็นการส่วนตัวได้ที่ @JerryMan
กรอกข้อมูลเพื่อรับข้อมูลมีประโยชน์ได้ที่นี่ คลิ๊กเลย