[review] umenohana (อุเมะโนะฮานะ) ไคเซกิ อาหารคอร์ส ญี่ปุ่น สุดพรีเมี่ยม

 
 
 
 
ารรับประทานอาหารไม่ใช่แค่การดับกระหายความหิว แต่เป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มคุณค่าทางจิตใจด้วยเช่นกัน
 
     ผึ้งประทับใจ อุเมโนะฮานะ เพราะอาหารทุกเมนู เต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่ คัดเลือกวัตถุดิบ การบรรจงสร้างสรรค์ในแต่ละเมนูให้เข้ากับฤดูกาล การจัดวางอาหารอย่างมีศิลปะ รวมไปถึงการตบแต่งร้านด้วยวัสดุชั้นดี และที่สำคัญที่สุด คือ การให้บริการด้วยหัวใจ ในแบบฉบับบญี่ปุ่นแท้ๆค่ะ ได้ใจคนรักงานบริการอย่างผึ้งไปเต็มๆ


 
มื้อแห่งความประทับใจนี้ ผึ้งได้รับโอกาสจากทาง ร้าน อุเมโนะฮานะ ให้มารีวิว มื้ออาหารแบบ ไคเซกิ( Kaiseki)
ชุดต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ค่ะอาหารชุดนี้มีชื่อว่า ฮารุ อุระระ  “Haru Urara” ค่ะ ชื่อเมนูน่ารักแบบนี้ ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ความงามของฤดูใบไม้ผลิค่ะ


 
ไคเซกิคืออะไร ??
หลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำนี้ เพราะในเมืองไทย ยังมีร้านอาหารประเภทไคเซกินี้ไม่มากนักค่ะ มาทำความรู้จักกับ คำว่า “ไคเซกิ” กันก่อนนะคะ
 
“ไคเซกิ” ถือเป็นการเสริ์ฟอาหารแบบทีละจาน จนจบคอร์ส ที่สะท้อนถึงสุนทรียศาสตร์ของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งผสมผสานด้วยรสชาติของอาหารที่กลมกล่อมที่เกิดขึ้นจากความปราณีตในการปรุง ตลอดจนความพิถีพิถันในการตกแต่งจานอย่างมีศิลปะกว่า 40 ปีของการเสริ์ฟแบบ “ไคเซกิ” ที่ อุเมะโนะฮานะ และกว่า 70 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น  ทำให้เมื่อพูดถึง “ไคเซกิ” คนญี่ปุ่นก็มักจะนึกถึงร้าน อุเมโนะฮานะ
 
      สำหรับผึ้งคิดว่า ไคเซกิ ไม่ใช่แค่เป็นมื้ออาหารระดับสูงที่สอดแทรกความเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิม ตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ที่พิถีพิถันการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล เป็นหลักเพียงอย่างเดียว ยังหมายรวมถึง การจัดร้าน การเลือกใช้ภาชนะอุปกรณ์ที่มีลวดลายสอดคล้องกับเมนูอาหารและฤดูกาล ตลอดจนการให้บริการด้วยหัวใจจากพนักงานทุกคนอีกด้วยค่ะ 
 
" อุเมโนะฮานะ "    ความประทับใจที่ผึ้งไม่มีวันลืม 
อร่อยเหนือความคาดหมาย ถูกใจคนรักสุขภาพอย่างผึ้งมากค่ะ

 

 
ตั้งแต่เดินมาที่หน้าร้าน และเข้าไปในบริเวณร้าน บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ จนนึกไปว่าอยู่ญี่ปุ่นเลยนะคะ
 
 


 
     เมื่อผึ้งเปิดประตูร้านเข้ามา พนักงานแต่งกายด้วยชุดซามุเอะก็แจกรอยยิ้ม  พร้อมกล่าวคำทักทาย สวัสดี แบบมืออาชีพ จัดแจงให้เราถอดรองเท้า นำไปเก็บ พร้อมพาเดินไปยังห้องที่จองไว้ และตอดเวลาที่เดินผ่าน พนักงานทุกคนจะกล่าวคำทักทาย พร้อมยิ้มให้ สร้างความประทับใจให้ อดีตแอร์ฯเก่า และคนทำงานในแวดวงการบริการอย่างผึ้งจริงๆ
 
 
ประทับใจแบบนี้ ตามประสาคนช่างสงสัย ว่าเขามีทีมอบรมกันยังไง พนักงานทุกคนถึงได้ดูมีอัธยาศัย น้ำใจไมตรี แบบนี้ระหว่างรออาหาร เลยสอบถามพี่พนักงานซึ่งใส่ ชุดซามุเอะสีชมพู แตกต่างจากคนอื่นๆซึ่งใส่สีเขียว จึงได้ความว่า

กว่าจะมาเป็น พนักงานร้าน อุเมโนะฮานะ ได้นี่ไม่ใช่ง่ายๆเลย!!
 
ที่ อุเมะโนะฮานะ สาขาประเทศไทย จะมีการส่งหัวหน้าพนักงาน  ไปฝึกอบรมที่ฟุคุโอกะ ประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้เข้าใจถึงหลัก “การบริการด้วยหัวใจ” หรือ ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า  “おもてなし (Omotenashi : โอโมเทะนะชิ)” ค่ะ ซึ่งพนักงานที่ถูกส่งไปทุกคน ต้องเรียนรู้ การปฏิบัติต่อลูกค้าแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ รวมทั้งต้องไปเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อให้รู้ขั้นตอนการผลิต และเข้าใจวัตถุดิบต่างๆ เพื่อนำกลับมาตอบข้อซักถามของลูกค้า และเข้าไปฝึกอบรมในสาขาต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการชาวญี่ปุ่น และนำกลับมาถ่ายทอดอบรมพนักงานรุ่นน้องต่อๆกันด้วย

โอ้....สุดยอดความประทับใจ นี่ขนาดยังไม่ได้ลิ้มชิมรส อาหารยังแอบหลงรักร้านนี้ซะแล้ว(มาสัมผัสการบริการเองนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าผึ้งโม้) เขาปฎิบัติแบบนี้ต่อลูกค้าทุกๆคนเลยค่ะ

 
 
 ตามธรรมเนียมปฎิบัติ เมื่อลูกค้ามาถึงแล้ว พนักงานก็จะนำผ้าร้อน และชา มาต้อนรับ
ก่อนอาหารมาเสริ์ฟก็เช็ดไม้เช็ดมือกันนิดนึง ^
 
วันนี้มาทานหลายคนค่ะ นั่งด้านในสุดของทางร้านเลยค่ะ ^^


 
มารู้จักอาหารแบบ "ไคเซกิ"  ไปพร้อมกับเมนูในวันนี้กันเล้ยย


Spring Kaiseki Course “Haru Urara”  ชุดนี้  ประกอบไปด้วย




ในคอร์สเสิร์ฟเป็น เต้าหู้ โยโมกิ มิเนโอกะ  หน้าอิคุระ ค่ะ

 
 
Yomogi Mineoka จานนี้คือ เต้าหู้นมสด เนื้อสัมผัสหนึบๆ หอมนมสด รสชาติออกหวานนิดๆค่ะ ผสมกับ Yomogi สมุนไพรญี่ปุ่นที่นิยมนำไปผสมในขนมต่างๆช่วงฤดูใบไม้ผลิ ด้านบนTop ด้วย ไข่ปลาแซลมอน(Ikura) วาซาบิ และดอกซากุระดองน้ำเกลือ ดอกซากุระนี่อร่อยมากๆเลยค่ะ รสเค็มอ่อนๆ
ทั้งหมดเมื่อรวมกันมันช่างลงตัว เรียกน้ำย่อยกันได้ดีจริงๆ
 
ดูสิ เต้าหู้ วาซาบิ ไข่ปลาแซลมอน ดอกซากุระ และซอส มันมีครบทุกรสเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
 
ที่ อุเมโนะฮานะ นี่โดดเด่นเรื่อง เต้าหู้มากค่ะ รู้ไหมคะ?? เต้าหู้ที่นี่ไม่ธรรมดานะคะผลิตภัณฑ์เต้าหู้ทั้งหมดของ อุเมโนะฮานะ ทำจากเมล็ดถั่วเหลือออแกนิค ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ส่งตรงมาผลิตที่เมืองไทย เพื่อที่จะให้ได้คุณภาพที่ไม่ต่างกับที่ญี่ปุ่น อุเมะโนะฮานะได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเต้าจากที่ญี่ปุ่น มาควบคุมการผลิตด้วยตัวเอง ด้วยความมุ่งหวังที่จะส่งต่อความอร่อยและคุณภาพที่ไม่แตกต่างจากอุเมะโนะฮานะที่ญี่ปุ่นเลย
ว้าวมากๆ 
ประทับใจกับความใส่ใจจริงๆ
 
2.

จานที่สองมาแล้วว 
หอยเชลล์และผักตามฤดูกาลราดเจลลี่พอนสึ 

หอยเชลล์ตัวใหญ่นึ่งกับผักตาฤดูกาล ผักนี้หน้าตาเหมือนยอดคะน้าฮ่องกงแต่ไม่ใช่นะคะ ผักนี้มีชื่อว่า (นาโนะฮานะ) Nanohana ผักสดกรอบดีไม่มีรสขมเลยค่ะ หอยเชลล์ตัดแบ่งครึ่งมาให้สะดวกพอดีคำ ด้านบนราดด้วย เจลลี่พอนสึ รสเปรี้ยวหวาน ทานแล้วสดชื่นซู่ซ่าดีจริงๆ^^

 

เห็นภาพแล้วอยากกลับไปกินอีก พิมพ์ไปน้ำลายไหลไป
 



เต้าหู้ ฟุคุ ฟุคุ ซากุระ และซอสซากุระเอบิ  
เมนูนี้ผึ้งตื่นตาตื่นใจมากค่ะ   เพราะเรียกได้ว่า ยกเต้าหู้มาให้ตุ๋นกันให้ดูเลยทีเดียว แม้จะต้องรอให้เต้าหู้เซ็ตตัวประมาณ 15 นาที แต่เมื่อตักมาทานร้อนๆ  แล้วราดซุปใสกุ้งซากุระเอบิลงไปแล้ว พูดได้คำเดียวว่า คุ้มค่าและ ฟินนน
ผึ้งเชื่อว่า สาวๆทุกคนต้องเทใจให้เมนูนี้เหมือนผึ้งแน่นอนค่ะ

 
 
**โดยเมนูนี้ปกติไม่เป็นสีชมพูอ่อนๆแบบนี้นะคะ จะเป็นสีเต้าหู้ปกติค่ะ แต่นี่เป็นฤดูซากุระค่ะ ต้องเข้าธีมนิดนึง สอบถามได้ความมาว่า เชฟจะนำยีสต์สีแดง (เบนิโคจิ) ตามธรรมชาติมาผสม เมื่อยีสต์แดงเจอกับเต้าหู้ ก็จะกลายเป็นเต้าหู้สีชมพูระเรื่อราวกับกลีบซากุระ เชฟช่างพิถีพิพันจริงๆ อยากจะเห็นหน้า
 


 
เดินทางมาถึงจานที่ 4 จาก 10จานเอง ท้องเริ่มตึงเล็กน้อย^^
จานนี้เป็น
ปลาดิบค่ะ คุณภาพและความสดไม่ต้องพูดถึง เพราะส่งตรงจากตลาดปลาที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว
มาดูปลากันดีกว่าค่ะ  
 

ในจานนี้จัดมาให้ 2 ชนิด คือ โทโร่ และ มะได (ปลากะพงแดงน้ำลึก) ค่ะ
โทโร่เนื้อหนาลายสวยน่าทานมาก ส่วนมะไดเนื้อนุ่มเหนียวกำลังดีค่ะ

เวลาทานซาชิมิหรือปลาดิบ เราจะเริ่มทานจากปลาเนื้อขาวก่อน
จึงจะไปจบที่ปลาเนื้อแดง หรือปลาที่มีความมันอย่างโทโร่นะคะ ทั้งนี้เพื่อที่จะได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้นไปตามลำดับค่ะ
ไม่งั้นปลาที่มีความมันอย่างโทโร่จะกลบรสของปลาเนื้อขาวไปหมดค่า
จานนี้สดราวกับแหวกว่ายลงไปกินในทะเลกันเลยทีเดียว


 
การจัดวางปลามาในภาชนะลายเข้ากับฤดูกาลนี่ส่งเสริมสุนทรีย์ในการกินจริงๆ
 



มาถึงครึ่งทางแล้วค่ะ รู้สึกว่าคุ้มค่ามาก แต่ยังไม่อิ่มนะคะ ยังไปต่อได้อีก
จานหลักจานนี้เป็นข้าวค่ะ
ข้าวซูชินึ่งหน้าอิคุระ
  จานนี้อร่อยยอดเยี่ยมค่ะ ข้าวนึ่งอุ่นหอมกรุ่นกลิ่นส้มยูสึ  ทานกับไข่ปลาแซลมอนกรุ๊บกรั๊บหอมอร่อย
 
 



ที่ร้านอุเมโนะฮานะที่ญี่ปุ่น มีชื่อเสียงมากค่ะเรื่องปู เพราะแต่ดั้งเดิมนี้ ความสำเร็จของอุเมโนะฮานะ เมื่อ40ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากการเปิดร้าน “คานิชิเกะ” ที่ฟุกุโอกะค่ะ จึงมีความโดดเด่นเรื่องการนำเสนอเมนูปูหลากหลายที่ปรุงด้วยกรรมวิธีต้นตำรับ บอกเลยสาวกปูอย่างผึ้งนี่ร้องกรี้ดดด 

 
  
ยกซึ้งมานึ่งกันเลย แบบอลังการมาก สาวๆที่ไปด้วยกรี้ดกร้าดกันเลยทีเดียว

ปูทาราบะนึ่งเซโระ (เซโระนี้ภาษาญี่ปุ่นแปลว่าซึ้งจ้า)
 
 
 
ปูทาราบะเนื้อแน่นๆนึ่ง จัดเรียงมาในซึ้ง นำมานึ่งตรงหน้าเรา ช่างยั่วน้ำลายสาวกปูอย่างผึ้งจริงๆค่ะ รอคอยด้วยใจจดจ่อ ประมาณ 7นาที ก็ได้เวลา ชิมมมม


  
ปูชิ้นใหญ่ๆเนื้อแน่นๆหวานอร่อย ทานแทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มกันเลยทีเดียว แต่น้ำจิ้มใสแจ๋วที่เรียกว่า Kanizu (คานิซุ) นี่ก็จิ้มแล้วเสริมรสปูได้ดีทีเดียว รสเปริ้ยวนิดๆขูดผิวส้มยูซึและใส่พริกไทยเล็กน้อย อร่อยมากๆเลยค่ะ
  



ในจานนี้ปกติจะเป็น เนื้อวัวคุโรกิวากิวย่างหินลาวา สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อวัวแบบผึ้ง แจ้งทางร้านได้นะคะ ทางร้านจะเปลี่ยนเป็นอาหารทะเลให้แทนค่ะ  ได้มาเป็นกุ้งเนื้อแน่นและหอยเชลล์ค่ะ และมีผักมาให้ย่างด้วยแต่ทานหมดแล้วลืมถ่ายรูปมา ผักเป็นถั่วลันเตา พริกหวานและมันฝรั่งค่ะ คือสดและเมื่อย่างให้รสหวานอร่อยมากค่ะ
ย่างบนหินลาวาแบบนี้ค่ะ ร้อนๆมาเลย ใส่Garlic Butter ลงไปก่อน ตามด้วยเนื้อสัตว์ค่ะ
 
 

 



เตาหินลาวาจะมีกระดาษครอบมาให้รอบค่ะ กันกระเด็นแต่ถ้าใครย่างลำบากก็เอาออกได้นะคะ
 

8.

ยูบะอาเกะ 
 
เนื้อปลาขาวบด รสชาติคล้ายๆลูกชิ้นปลา แต่จะนุ่มและเนียนกว่าลูกชิ้นปลา พันฟองเต้าหู้ส่งตรงจากญี่ปุ่น เสริ์ฟมาในจานลายดอกซากุระฟรุ้งฟริ้ง เข้ากับฤดูกาลจริงๆ เวลาทานบีบเลมอนใส่เล็กน้อยนะคะ อร่อยเทใจให้เลยค่ะ
 
 
 




นิกิริซูชิและเทคกับมากิ และ มิโซะฟองเต้าหู้


 
อร่อยสุดๆผึ้งแทบไม่จิ้มโชยุเลยค่ะ
 
ปิดท้ายเมนูคาวทั้งหมดด้วย
 ซุปมิโซะฟองเต้าหู้ 
เป็นมิโซะแดงใส่ฟองเต้าหู้ มิโซะแบบนี้จะมีรสของถั่วเหลืองชัดเจนกว่าแบบใส ญี่ปุ่นเรียกว่า Akadashi นะคะ ต่างกับมิโซะแบบธรรมดา ฟองเต้าหู้ในซุปนุ่มอร่อยมากๆเลยค่ะ
  

10 
 
สุดท้ายเป็นขนมหวานล้างปาก

พุดดิ้งน้ำเต้าหู้ราดซอสสตรอเบอรี่ทานคู่กับ ชาโฮจิชะร้อนๆ อร่อยไม่มีคำบรรยายค่ะ  อยากขออีกสักถ้วยแหะๆ 

 
  
แถมท้าย
ไหนๆที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเต้าหู้แล้ว ผึ้งเลยสั่ง
Tonyu (โทนิว) หรือน้ำเต้าหู้มลองชิมค่ะ ผึ้งสั่ง ยูซึโทนิว 
 
 
 
 อร่อยและหอมกลิ่นส้มยูซึมากๆค่ะ ใครมาอย่าลืมลองสั่งมาทานนะคะ
 
 
ชุดไคเซกิสุดพิเศษประจำฤดูใบไม้ผลินี้มีจนถึง วันที่ 30 มิ.ย 59 นี้เท่านั้นนะคะ
 อยากให้ทุกคนพาคนพิเศษ มาลองชิมกันค่ะ
 

ก่อนจะจบรีวิว ขอพาชมบรรยากาศในร้านกันสักนิดค่ะ
บรรยากาศร้านตกแต่งกันแบบญี่ปุ่นแท้ โดยทีมงาน อุเมโนฮานะ ประเทศญี่ปุ่น อุปกรณ์ตกแต่งร้าน ทุกจุดทุกมุม ล้วนส่งตรงจากญี่ปุ่นเลย จัดแต่งหมุนเวียนไปให้เข้ากับเทศกาลที่ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงฤดูกาลด้วยค่ะ
 
 
  
โซนรับประทานอาหาร จะเป็นแบบส่วนรวม และส่วนตัวค่ะ (แบบส่วนตัวนี่เหมาะมากกับการ พาครอบครัว หรือ ผู้ใหญ่มาทานมื้อสำคัญ หรือแม้กระทั้งห้องเล็กๆสำหรับสองเราก็มีนะคะ แต่ต้องจองล่วงหน้าค่ะ เผื่อใครอยากพาแฟนมาเซอร์ไพร์ส ก็จองแต่เนิ่นๆนะคะ ^^)
 
 

 
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ ร้าน อุเมโนะฮานะ ที่ยึดมั่นและส่งต่อคำสัญญาที่มีต่อลูกค้าทุกคนจากญี่ปุ่นมาสู่เมืองไทย จนทำให้เป็นร้านในดวงใจของทุกคนเมื่อได้มาเยือน หลัก3ประการที่ทางร้านยึดมั่นคือ

1.     เป็นร้านไคเซกิแบบดั้งเดิม
2.มีแต่ความอร่อยเหนือความคาดหมาย และ
3. ความประทับใจไม่มีวันลืม

ทั้ง 3สิ่งนี้ได้ประทับอยู่ในหัวใจดวงน้อยๆของผึ้งไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^
 
ซึ้งจัง อาหารอร่อย บริการก็ดี ห้องส่วนตัวก็มีให้ จะหาร้านไหนมาเทียบได้นี่
 
สำหรับใครที่อยากไปลิ้มลองอาหารตามแบบฉบับไคเซกิขนานแท้แบบผึ้ง ขอแนะนำว่าควรโทรไปสำรองเวลาล่วงหน้านะคะ สัก1-2วัน เพราะที่ร้านนี้ลูกค้าแน่นและเต็มเกือบตลอดค่ะ
 
และก็แอบถ่ายป้ายนี้มาฝากค่ะ สาวๆคนไหนที่ไปทานมื้อกลางวัน ช่วงวันพุธ จะมีเต้าหู้แจกให้ด้วยนะคะ น่ารักจริงๆ

 
 

แอบเอาเมนูมื้อกลางวันมาฝากค่ะ ราคาน่าโดนมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพและการบริการขนาดนี้ 
 
 
 
อีกนิดกับเมนู Donburi หน้าต่างๆ ที่มีเสริ์ฟเฉพาะช่วงกลางวัน วันธรรมดา นะคะ น่าทานทุกจานเลยอ่ะ
 
 
 

ข้อมูลร้านอุเมโนะฮานะ
อาคารนิฮอนมูระมอลล์ ชั้น 2 ซอยทองหล่อ 13 (จอดรถใต้อาคารได้เลยค่ะสะดวกมาก)
ทางร้านเปิด  2  ช่วงเวลาคือ  มื้อกลางวัน 11.00 – 15.00 และ มื้อค่ำ18.00 -23.00 
โทรติดต่อสอบถาม/สำรองเวลา
ภาษาญี่ปุ่น 082 – 993 – 1193 
ภาษาไทย 084 – 438 – 3892
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles