[review] อุเมะโนะฮานะ.. ตำหนักดอกบ๊วยแห่งไคเซกิขนานแท้ระดับตำนานจากญี่ปุ่น [VarinTheTale]

 
 
 
ทรายเคยนั่งคิดนะว่า ใจคนญี่ปุ่นทำด้วยอะไร ทำไมถึงใส่ใจกับการทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายได้ขนาดนั้น … มันไม่ใช่แค่การเห่อในช่วงแรก แต่เป็นการทำซ้ำทุกๆวันไม่เหน็ดเหนื่อย เค้าปลูกฝังลูกหลานอย่างไร จึงเคารพหน้าที่ที่มีต่อตนเองได้ขนาดนี้
   ทรายสีเคยไปใช้ชีวิตกับคนญี่ปุ่นมาเป็นช่วงเวลาสั้นๆค่ะ แต่เป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม ไม่สามารถหาได้จากการท่องเที่ยวทั่วไป นั่นคือการใช้ชีวิตร่วม สัมผัสร่วม เข้าใจร่วม …ประทับใจในวัฒนธรรมของพวกเค้าเอามากๆ และสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้คือเรื่องอาหาร …คุณแม่ชาวญี่ปุ่นทำอาหารให้เป็นเซ็ททุกเช้า ยิ่งกว่าไปกินร้านอาหารเสียอีก การจัดวางเป็นระเบียบระดับงานเหลา(ภัตตาคาร)… ไม่ต่างอะไรกับที่ที่จะพูดถึงวันนี้ค่ะ 
…อุเมะโนะฮานะ… 
    ทรายไม่ได้บอกว่าเมื่อมาที่นี่แล้วรู้สึกนึกถึงคุณแม่ญี่ปุ่นคนนั้น แต่ ทรายคิดถึงความรักในการทำอาหารและในการบริการแขกผู้มาเยือนดุจเจ้าหญิงเจ้าชายอย่างไรอย่างนั้น …ถ้าพวกเค้าไม่รัก ไม่เอาใจใส่ อาหารก็คงไม่มาถึงเราค่ะ …คุณลองชิมดู คุณก็จะรู้ค่ะ ว่ารักหรือไม่รัก… ทำส่งๆไป หรือใส่ใจทุกกระเบียดนิ้ว
    วันนี้เป็นเกียรติมากๆที่ทางร้านเชิญทรายมาสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกครั้ง ….โอ้ยย คิดถึงจริงๆ  ความรู้สึกเหมือนวาร์ปไปแดนซามูไรทันที แค่ก้าวเท้าแตะเสื่อทาทามิ ก็มโนประหนึ่งใส่กิโมโนอยู่บนร่าง เดินซึมซับก้าวเล็กก้าวน้อยตามวิถีหญิงยุ่นใจงาม
 
      ร้านอุเมโนฮานะ จะเป็นร้านอันดับต้นๆที่คุณนึกถึงเมื่อได้มาเยือนซักครั้งค่ะ ที่นี่เติมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมของญี่ปุ่นขนานแท้ ที่คำมั่นสัญญาของดอกบ๊วยเป็นมาตรฐานการันตีการเป็นทูตวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี สัญญานั้นคือ
1. การเป็นไคเซกิขนานแท้ดั้งเดิม
2. รสชาติและวัตถุดิบชั้นเลิศ และ
3. งานบริการอันประทับใจ

ซึ่งทรายขอบอกเลยว่ามีครบทั้ง 3 ข้อจริงๆ …เลยต้องขอให้ทุกท่านตามทรายมาชมค่ะ
   เมื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จัดสรรการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ มีเป้าหมายและมีรางวัลให้กับตัวเองสอดคล้องกัน ท่านจะเป็นผู้พิถีพิถัน เอาใจใส่ สบายๆแต่รุกฆาตเฉียบคม… เมื่อท่านต้องมีธุระพบปะสังสรรค์ในทุกๆภารกิจ ไม่ว่าจะเจอเพื่อน ญาติผู้ใหญ่ หรือแม้กระทั่งประชุมธุรกิจสำคัญ ตำหนักแห่งนี้จะเป็นที่ที่นึกถึงอยู่ในความคิด เมื่อจะมอบสิ่งแทนใจให้พ่อแม่ คนรัก หรือไปถึงการประชุมคู่ค้า พาทเนอร์ ที่เราเอาใส่ใจเขา
   ...การจัดส่วนของตำหนักนี้มีห้องไพรเวทให้ทุกๆระดับ ทั้งใหญ่เล็ก รวมถึงห้องส่วนกลาง ทรายเชื่อว่าตอบโจทย์ทุกท่านได้เป็นอย่างดี
 
=l=l=l=l=l=l=l=l=l=l  ตำหนักดอกบ๊วย  l=l=l=l=l=l=l=l=l=l=
 
         -เกร็ดน่าเล่าของสถาปัตยกรรมบ้านญี่ปุ่น-
     ..เอกลักษณ์ฉบับบ้านญี่ปุ่นสิ่งแรก คือ Genkan เป็นห้องเล็กๆเมื่อเข้าบ้านมา แยกออกจากห้องด้านในอีกที มักเป็นที่ถอดรองเท้าและต้อนรับแขกค่ะ
     ..เสต็ปต่อมาที่จะเจอคือพื้นบ้านยกสูง เป็นช่องระบายความชื้น ถ้าไม่มีชั้นนี้เสื่อที่ปูจะเน่าค่า
     ..ต่อมาสำหรับพื้นห้องมีทั้งหมด 3 ชนิดค่ะ คือ พื้นดินเปล่า พื้นเป็นไม้ และพื้นเป็นเสื่อ (Tatami) …พื้นดินเปล่า มักเป็นห้องครัว เตาไฟที่ทำอาหาร และห้องอาบน้ำ แต่สมัยนี้มีแค่ในบ้านเก่าแก่แล้วค่ะ ส่วนพื้นไม้มักจะใช้เป็นห้องเก็บของทั่วไปหรือที่เตรียมอาหาร และส่วนพื้นเสื่อ Tatami มีคุณสมบัติที่ปรับความชื้นในห้องให้สมดุล ซึ่งถ้าความชื้นในอากาศสูงมาก Tatami จะดูดความชื้น และถ้ามีความชื้นน้อยในอากาศ Tatami ก็จะระบายความชื้นได้ นอกจากนี้บ้านแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนจะมีพื้นที่คล้ายกับระเบียงในบ้านถัดจากห้องนั่งเล่นไป ที่เป็นพื้นไม้เรียกว่า Engawa ค่ะ
     ..ประตูกระดาษ มี 2 ส่วนค่า Shouji และ Fusuma ลักษณะของ Shouji นั้นก็เป็นประตูเลื่อนที่มีโครงสร้างเป็นตาข่ายไม้และเอากระดาษสาญี่ปุ่นบางๆมาปิด ซึ่งแสงสว่างของด้านนอกสามารถผ่านเข้ามาในห้องได้ สำหรับ Fusuma เหมือนกันเลย แต่ใช้กระดาษหนาและแสงสว่างไม่สามารถที่จะผ่านได้ ซึ่งใช้เป็นประตูระหว่างห้อง
    ..อีกอย่างหนึ่งที่เห็นบ่อยในห้องรับแขกคือ Tokonoma ซึ่งเป็นที่แขวนภาพวาดแบบญี่ปุ่นที่เป็นม้วนๆ (Kakejiku) หรือดอกไม้ประดับที่จัดแต่ง (Ikebana) ซึ่งมักเป็นพื้นไม้ที่ขัดเงาที่มีเนื้อที่ประมาณเป็นเสื่อ Tatami ครึ่งผืนหรือหนึ่งผืนก้ะ
อุเมะโนะฮานะนี้มีเรื่องเล่า...ชื่ออุเมะโนฮานะมีความหมายว่า ดอกบ๊วย ในภาษาจีนคือดอกเหมยนั่นเอง  เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ร้านเริ่มต้นจากการเปิดร้าน คานิชิเกะ ที่เมืองคุรุมะ จังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในเมนูปูหลากหลายชนิด สุดยอดปูมารวมกันอยู่ที่นี้แหละขอบอก ต่อมาก็สืบสานการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์เมนูฉบับต้นตำหรับด้วยการเปิดร้านอุเมะโนะฮานะ ที่คุรุมะ ถิ่นเดียวกันนั่นเอง

… ซึ่งเสียงตอบรับความตั้งใจของร้านดีมากถึงกับขยายสาขาไปอีก 70 ที่ทั่วญี่ปุ่น …ซึ่ง ซึ่ง ซึ่ง !! เมืองไทยเป็นสาขาต่างประเทศแห่งแรก ที่เป็นตัวแทนวัฒนธรรมการเสิร์ฟแบบไคเซกิขนานแท้ ด้วยความมั่นใจอย่างยิ่งว่าคนไทยจะได้รับความประทับใจมิรู้ลืมเช่นกัน อีกทั้งสูตรเด็ดคือ เมนูในประเทศไทยยังผสมผสานเมนูปูของร้านคานิชิเกะ และเต้าหู้ของอุเมะโนะฮานะไว้ที่เดียวกันเลยด้วย รวมความเด็ดไว้ที่นี่ที่เดียว
ต้นบ๊วยสัญลักษณ์ของร้านเดินทางมาจากญี่ปุ่น
 
=l=l=l=l=l=l=l=l=l=l  สุรเสียง  l=l=l=l=l=l=l=l=l=l=
 
    เมื่อท่านเข้ามาในร้านสิ่งที่ท่านจะได้ยินก่อนเลยคือ คำทักทายที่สดใสจากพนักงานร้านค่ะ ที่ปรี่เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในการเก็บรองเท้าของเราเข้าตู้ ต่อมาท่านจะยินเสียงเพลงคลอที่นอกจากนะทำให้บรรยากาศเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมแล้วเนี่ย ยังเป็นเพลงที่สอดคล้องตามฤดูกาลอีกด้วย
เมื่อเปลี่ยนรองเท้าพนักงานจะนำรองเท้าของท่านเก็บอย่างดีค่ะ
ทางร้านจำหน่ายของที่ระลึกน่าสะสมค่ะ อยู่บริเวณทางเข้า
 
 
=l=l=l=l=l=l=l=l=l=l  ศิลปะบริการ  l=l=l=l=l=l=l=l=l=l=
ร้านอุเมะโนะฮานะ เป็นร้านที่เด่นเรื่องเมนูเต้าหู้และยูบะ ที่เชฟบรรจงสร้างอย่างมีเอกลักษณ์ ทำให้ลูกค้ายอมรับเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชื่อเสียงด้านงานบริการ โอโมเทนาชิ คือการบริการด้วยหัวใจค่ะ โดยกว่าจะมาเป็นบริการได้ทุกคนต้องผ่านการสอบอย่างเข้มงวด เป็นเวลา 6 เดือนที่ญี่ปุ่นเพื่อสืบสานวัฒนธรรมการบริการเก่าแก่มาให้ครบถ้วนทุกกระเบียดนิ้ว ซึ่งท่านจะนึกไม่ถึงเชียวล่ะ ไม่ว่าจะการหันจาน วางจาน การชงชาแต่ละชนิด มากมายเลยค่ะ เราต้องยอมพวกเธอเลยจริงๆ
   ที่นี่พยายามตอบรับความต้องการของลูกค้าทุกอย่าง เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะอุปกรณ์รวมไปถึงของขวัญสำหรับเด็ก อันนี้ต้องเรียกว่า Beyond Expectation
 
นี่คือห้องอาหารที่ตกแต่งสวยงาม พนักงานเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ไม่คุกคามความเป็นส่วนตัวของลูกค้าเลยค่ะ บริการด้วยความเข้าใจจริง
ห้องไพรเวทสำหรับสี่คน เมื่อท่านต้องการพูดคุยธุระส่วนรวม
ห้องไพรเวท 8 ที่ค่ะ
เดินทางถึงประชุมที่ใหญ่สุดของตำหนักนะคะ
สถาปัตยกรรมตามขนบธรรมเนียมญี่ปุ่นจากช่างญี่ปุ่นขนานแท้
รวมไปถึงภาพประดับที่สอดคล้องกับที่ทรายกล่าวถึงข้างต้นว่า ญี่ปุ่นพิถีพิถันและดำเนินชีวิตตามฤดูกาล
ในภาพคือรูปเด็กหญิงค่ะ เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นเทศกาลเด็กผู้หญิงหรือเทศกาลตุ๊กตา (Hina Matsuri) ในวันที่ 3 เดือน 3 นั้นเอง เหล่าผู้หญิงคือเพศที่สวยดั่งดอกไม้ผลิบาน จะรอคอยเพื่อนำตุ๊กตามาประดับบ้านเพื่อขอพรปัดเป่าภัยอันตราย โดยมีความเชื่อมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้วค่ะ ว่าวันที่เลขของวันและเดือนตรงกัน จะเป็นวันที่พลังของเทพเจ้าส่งผลดีมายังมนุษย์
จำลองสวนเล็กๆได้บรรยากาศริมระเบียงญี่ปุ่น ที่บ้านเก่าแก่ต้องมีการจัดสวนสวยงาม
     ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ สำหรับญี่ปุ่นนั้นได้เปรียบลวดลายของดวงจันทร์เหมือนกระต่ายที่กำลังตำขนมโมจิ และเชื่อว่ากระต่ายคือสัตว์ที่จิตใจอ่อนโยนและใจดี ตามคำเล่าที่ว่า ครั้งหนึ่งเทพบนดวงจันทร์ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อลองใจ สัตว์ 3 ตัว แต่เจ้ากระต่ายยอมเสียชีวิตตนเพื่อเป็นอาหารของชายชรา เทพที่แปลงเป็นชายชราจึงนำเจ้ากระต่ายไปอยู่ด้วยบนดวงจันทร์ ความดีงามของกระต่ายจึงเหมือนการบริการด้วยหัวใจของอุเมะโนะฮานะ
 
=l=l=l=l=l=l=l=l=l=l  กลิ่นและรสสัมผัสไคเซกิ  l=l=l=l=l=l=l=l=l=l=
        -เกล็ดน่าเล่าของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น-
     ปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นมีการควบรวมระหว่างอาหารพื้นเมืองและขั้นตอนการทำจากต่างประเทศ ตั้งแต่สมัยญี่ปุ่นเปิดประเทศค่ะ ก่อเกิดการประยุกต์กรรมวิธีต่างๆเข้าด้วยกัน อาทิเช่น เริ่มมีการทอด การใช้แป้ง เป็นต้น ซึ่งญี่ปุ่นเนี่ยจะมีชื่อเสียงด้านการทำอาหารตามฤดูกาลค่ะ รวมถึงคุณภาพวัตถุดิบ และการจัดวางด้วย
      …ญี่ปุ่นเนี่ย นอกจากจะเน้นรสชาติอาหารแล้ว อาหารยังถือเป็นสิ่งเพลิดเพลินในการมองอีกด้วย! กล่าวคือ เค้าจะใช้วัตถุดิบที่กลมกลืนกัน และก็เล่นสีตัดกันด้วยครับ และเน้นการใช้ภาชนะที่สวยงามเข้ากับอาหาร ทุกอย่างละเมียดละไม มีศิลปะ ชีวิตน่าอภิรมย์จริงๆขอรับ 
    ปกติแล้วรสชาติฉบับญี่ปุ่นจะมีรสจืดซะส่วนใหญ่ ด้วยเพราะกรรมวิธียอดฮิตโบราณคือการต้ม และนึ่ง ทั้งนี้เพื่อการคงรสชาติตำหรับธรรมชาติสรรสร้างค่ะ เค้าเชื่อว่าสิ่งที่ได้มาจากธรรมชาตินั้นมีคุณค่า ลึกลับและหาได้ยากแท้ ซึ่งแน่นอนว่าภูมิประเทศของญี่ปุ่นนั้นทำให้อาหารการกินหลักๆ นิยมเป็นสองจำพวกคือ ทะเลและภูเขา แบบแรกคือทะเลนั้น เพราะญี่ปุ่นเป็นเกาะจึงมีวัตถุดิบทางทะเลมาก และมีรสเลิศ ซึ่งญี่ปุ่นกินของทะเลได้เกือบทุกอย่าง หนำซ้ำนิยมแบบดิบด้วยเค้าว่าดีที่สุดแหละ แต่ต้องสดมากๆนะคะ เค้าจะแยกชัดเจนว่าชนิดไหนดิบได้ แบบไหนต้องสุก  ส่วนอาหารภูเขานั้นก็อย่างเช่นเนื้อสัตว์ป่า หมูป่า นกป่า แต่ที่นิยมที่สุดคือ เห็ดค่ะ เพราะเป็นประเทศชื้นและมีภูเขาสูง เห็ดจึงมีมากที่สุดและหลากชนิดด้วย
ไคเซกิ เป็นการเสิร์ฟอาหารแบบคอร์สที่สะท้อนถึงสุนทรียศาสตร์ของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง เพราะการรับประทานอาหารไม่ใช่แค่สิ่งที่ช่วยดับความหิว แต่สามารถเติมเต็มคุณค่าทางจิตใจ… ช่วงเวลาที่มีความสุขของคนส่วนมาก คือช่วงรับประทานอาหารค่ะ (ทรายก็เป็นเช่นนั้น555) ทางร้านจึงบรรจงสร้างสรรค์วัตถุดิบอย่างดี จัดวางอย่างมีศิลป์ และเสิร์ฟอาหารทีละจานเพื่อรสชาติที่สดใหม่เสมอ
    เนื่องจากใกล้ฤดูใบไม้ผลิของช่วงมีนาคม เป็นฤกษ์สดใสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ค่ะ (เหมือนที่ทรายกำลังจะได้เริ่มต้นกินแล้ววว) แต่ขอพูดอีกนิดว่า สัญลักษณ์ของฤดูนี้คนส่วนมากจะต้องนึกถึงซากุระค่ะ และเพื่อให้ท่านได้รับอารมณ์แห่งใบไม้ผลิเต็มที่ ทางร้านจึงใช้วัตถุดิบที่หาได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น จับคู่กับปูทาราบะและเต้าหู้ สุดยอดเมนูขึ้นชื่อจากร้านทางร้าน (Super Multiple Signatures …ทรายคิดเอง) กลายเป็นไคเซกิพิเศษเฉพาะฤดูกาลนี้ ที่มีนามว่า“Haru Urara” สำหรับ Dinner Course ...(ส่วน Lunch Course ชื่อ Mai Zakura ค่ะ น่ารักไม่แพ้กัน ต้องมาลองนะคะ แล้วบอกทรายด้วยยยย)
 
เรามาเริ่มกันดีกว่า… กับมื้อเย็นสุดพิเศษนี้
1.อาหารเรียกน้ำย่อย โกมะโดฟุ
(ทางขวามือนะคะ) ชื่อโกมะโดฟุ (เต้าหู้งา)ย่าง หน้าอุนิ ส่วนด้านล่างเป็นวาริโจยุ เป็นโชยุปรุงรสสูตรพิเศษลับเฉพาะจากทางร้าน
เปิดมาว่าหน้าตาดี รสชาตินี้ล้ำกว่า
โกมะโดฟุค่ะ จานนี้ทรายให้ 100 คะแนนเลย จานแรกของทรายเด็ดมากกก เนื้อเต้าหู้มันเหนียวนุ่นกำลังดี กับซอสพิเศษข้างล่างนี่ เข้ากันสุดๆเลยย 
จานแรกสตั๊นน
** สำหรับท่านที่ตามทรายมาทานหลังจากนี้...จานนี้จะเสิร์ฟให้เป็น เต้าหู้โยโมกิ มิเนโอกะ หน้าอิคุระ  สีสวยมาก ดอกไม้ผลิสุดๆ **

2. อาหารเรียกน้ำย่อย ปลาแซลมอนอาบุริ
จานทางซ้ายค่ะ ชื่อ ปลาแซลมอนอาบุริซอสเปรี้ยว คือการนำแซลมอนไปลนไฟค่ะ แล้วตกแต่งด้วยไข่ปลา 
…จานที่ 2 เปลี่ยนอารมณ์มาเป็นอาหารคาวเต็มตัว แต่เนื้อนุ่มมาก เข้ากับน้ำซอสที่คลุกมาอย่างดีแล้ว
** สำหรับท่านที่ตามทรายมาทานหลังจากนี้...จานนี้จะเสิร์ฟให้เป็น หอยเชลล์และผักตามฤดูกาลราดเจลลี่พอนสึ นะก้ะะะ แอ้ยยยกริ๊ดด **
 
3. อาหารอุ่น ฟุคุฟุคุซากุระ
พนักงานนำหม้อเต้าหู้มาวางค่ะ เหย อลังการงานหอคอยเต้าหู้มากเลย
จานนี้ชื่อ ฟุคุฟุคุซากุระ มากับซอสซากุระเอบิ เอบิคือกุ้งนั่นเอง
เนื้อเต้าหู้ออกสีเนื้อนวลๆ ชมพูนะก้ะ
เราต้องตักมาไว้ที่ชามพัก แล้วเทน้ำซากุระเอบิลงไปคลุกให้ก่อนทานนะก้ะ
น้ำซอสไม่ได้รสจัด เพราะต้องการดึงรสชาติเต้าหู้ให้ผู้ทานสัมผัสถึงความนุ่มละเอียดให้ได้มากที่สุด
เพราะทรายว่านี่เป็นไฮไลค์ของเซ็ทนี้อีกหนึ่งจานค่ะ …..เพราะอาหารที่มีคุณค่ามักซ่อนเรื่องราวเสมอ
4. ปลาดิบ
จานต่อมา คือปลาดิบค่ะ เนื้อเย็นๆเลย เป็นเนื้อปลาที่แร่และคัดสรรมาแล้วจากทางร้าน พร้อมกับสาหร่าย ฉีกอารมณ์ไปอยู่ทะเลเดี๋ยวนั้นเลย

 
5. ซูชิอิคุระนึ่ง
จานนี้ชื่อ ซูชิอิคุระนึ่งกับเปลือกส้มยูสึ ที่เป็นอาหารจานหลักก็เพราะจานนี้เป็นข้าวค่ะ ซึ่งเราชาวเอเชียจะถือข้าวเป็นอาหารจานหลักเสมอ และสำหรับจานนี้ก็อร่อยเลิศ เกินหน้าตาไปอีก ไม่คาดคิดว่ากลิ่นเนื้อจะกลมกล่อมเข้ากันได้ดีมากๆ ชามที่ใส่ก็เลือกมาให้เข้ากับเมนูด้วย ลองสังเกตดูดีๆนะคะ ทุกจานจะเลือกจานที่เหมาะกับเมนูด้วย สนุกกับการกินสุดๆเลย
แต่ละจานประณีตในการปรุงมาก ไม่เชื่อก็ลองสอบถามพนักงานได้เลยว่า แต่ละจานนั้นมีที่มาอย่างไร 
ทุกจานล้วนมีประวัติสมกับเป็นร้านที่มีประวัติศาสตร์ค่ะ
 
6. อาหารนึ่ง คือ ปูทาราบะ
อลังการมากตั้งแต่หม้อนึ่งมาตั้ง ภายในบรรจุปูทาราบะนึ่งเซโระมาค่ะ (King of Crabs) ที่เห็นคือ 5 ที่นะคะ 
โดยทางร้านจะกะมาพอดีคนให้อิ่มกำลังดีค่ะ (บอกแล้วใส่ใจสุดๆ)
ท่านนี้เป็นหัวหน้าพนักงานค่ะ เซียนการบริการมาก เลยขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเผื่อทุกท่านเจอเธอมามาเยือนร้านนะคะ การพูด การคุย การเสิร์ฟ สุดๆเลย ถ้าเล่าเดี๋ยวยาวอีก 3 หน้ากระดาษค่ะ สำหรับการบริการของที่นี้ ขอให้ทุกท่านมาสัมผัสเองจะดีกว่า
เปิดมาแล้วพร้อม หมอกและควันจางๆ 55 เจ้าแห่งปูทั้งมวลหน้าตาดีมากนะ ขอซูมใกล้ๆ
หักและแยกชิ้นมาให้แล้วเรียบร้อย พร้อมทานแบบง่ายๆค่ะ ไม่เละเทะวุ่นวาย
จิ้มด้วยน้ำจิ้มยูสึโคโช นี่เด็ดดดดดเล้ยยย โอ้วโหหห ชอบส้มยูสึจริงๆ ดีงามหลายจานแล้ว นี่เป็นไฮไลค์ของร้านนะคะให้ 2000 คะแนนสำหรับปูๆๆๆ
 
7. อาหารย่าง เนื้อวัวคุโรเกะ
ทำไงดีให้คะแนนไม่ถูก งานนี้มาองค์ประกอบดีเริ่ดนะคะ มาพร้อมเตา และชามใส่สวยมาก เราจะเหมือนจักรพรรติเลย นี่คือ
เนื้อวัวคุโรเกะวากิย่างหินลาวา จานนี้ต้องรีบกิน เพราะหินลาวามาแบบร้อนๆเลย
หินลาวาเป็นกิมมิคของจานนี้ ที่ทำให้แขกเพลิดเพลินกับการปิ้งย่างเนื้อที่สดใหม่ด้วยตัวเองค่ะ รสชาติใหม่ๆของเนื้อดีมากกกกก เราใส่เนยไปก่อนแล้วตามด้วยเนื้อ แปร่ปเดียวสุกเลย รีบเอาเข้าปากค่ะ ….จิ้มด้วยน้ำจิ้มเนื้อส้มยูสึค่ะ จะได้อีกรสชาตินึง
ส้มยูสึอีกแล้วค่ะ เธอมีดีจริงๆ … แนะนำว่าเนื้อมี 2 ชิ้น ชิ้นนึงไม่จิ้มและอีกชิ้นจิ้ม จะได้ลองรสชาติ 2 แบบเนอะ
อย่าลืมทานผักนะคะ

8. อาหารทอด คือ ยูบะอาเกะ
ยูบะอาเกะ ปลาเนื้อขาวม้วนด้วยเต้าหู้ …แค่ตกแต่งและจานก็รู้สึกดีแล้ว
บีบมะนาว Lemon ลงไปหน่อยค่ะ เป็นไปได้ที่รสชาติจะกลมกล่อม
อะโห้ววววว จานนี้ม้ามืดมากกกก พีคคคสุดๆ ให้คะแนนสิบหมื่น คะแนนโลเลไปหมด อร่อยจริงๆ เนื้อปลานุ่มกว่าปกติ รสนวลมากเลย 
เชียร์สุดๆๆ อยู่ให้ถึงจานนี้นะคะๆๆ ขอร้องๆๆ
 
9. ฮันโมโนะ (ข้าว) / ชิรุโมโนะ (ซุป) / ซึเกะโมโนะ (ผักดอง)
แหม อาหารญี่ปุ่นจะพลาดได้หรอคะ ซูชิและซุป เดี๋ยวไปไม่ถึงญี่ปุ่นนะก้ะ.. จานนี้ชื่อ นิกิริซูชิและเทกกะมากิ มาพร้อมกับซุปมิโซะฟองเต้าหู้ค่ะ
เนื้อสดและแน่นจริงๆค่ะ การันตีอีกจานนึง
 
เต้าหู้เค้าเด็ด
 
10. ขนมหวาน
ปิดท้ายด้วยของหวานชื่อ พุดดิ้งน้ำเต้าหู้ โรยด้วยผงเต้าหู้ และชาโฮจิฉะ
 
ชาเขียวคั่วสุดพลังเลยค่ะ หอมและรสชาติดีงามสมแล้วเป็นสุดยอดชาราคาแพง ซึ่งทางร้านเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมหวานที่รับรองเลยว่าเข้ากันดี … พนักงานต้องฝึกชงเลยนะเนี่ยยย ทำเป็นเล่นไม่ได้นะคะ
ปิดท้ายน้ำตาไหลลลลลล หึ้ยยยย รสดีเกินคาด คนรักของหวานจะรักมาก คนไม่ชอบของหวานก็หันกลับมากินเลย ถ้วยนี้ทรายนึกถึงไม่เสื่อมคลาย กะว่าครั้งหน้าขอทานมากกว่า 2 ถ้วยขึ้นไปก้ะ แบบสุดๆแล้ว ปิดถ้ายให้แสนพ้อยท์ไป แจกๆๆๆ
      บไปแล้วเซ็ท ไคเซกิ 10 อย่าง ยิ่งกว่าอิ่มคือการเสพสรรค์ ชีวิตมีรสชาติ… ขอบคุณอุเมะโนะฮานะจริงๆค่ะ ขอบคุณที่ดูแลอาหารและวัตถุดิบอย่างดี คิดสร้างสรรค์มาเพื่อความสุขของลูกค้าจริงๆ ...เข้าใจการทานที่มากกว่าทานให้อิ่ม คือการเสพรสชาติคุณค่าทางจิตใจก็คราวนี้แหละค่ะ และไม่พูดถึงคงไม่ได้คือ พนักงานบริการ ที่ทำให้แขกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอ... องค์ประกอบของตำหนักนี้นับว่าลงตัวที่สุดเลย
    การบริการที่มาจากใจทั้งพนักงานและพ่อครัว ที่ถึงแม้ทรายไม่ได้เห็นหน้าแต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะ การบริการจากใจจริง สมควรได้รับคำขอบคุณจากใจจริงเช่นกันค่ะ ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ
    สุดท้ายทรายขอพื้นนี้ ขอบคุณเจ้าของร้านคือ คุณเจ็ม ไรวา และผู้จัดการร้าน คุณเทล ที่นอกจากจะเปิดร้านให้ได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแล้ว ยังใจดีเล่าประวัติและเกร็ดความรู้ ให้มื้อนี้มีชีวิตเพิ่มขึ้น...  ทรายสังเกตุว่าถึงแม้ร้านอาหารจะตั้งอยู่บนบรรทัดฐานของการทำธุรกิจ แต่ร้านนี้ตั้งอยู่บนความพอใจและความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกที่จะให้ผู้บริโภคประทับใจเป็นหลัก โดยที่คุณเจ็มไม่ลังเลเลยที่จะลงทุน ออกแรง เพื่อซัพพอตความสุขของลูกค้า ไม่ว่าในแง่ธุรกิจที่สำหรับที่อื่นจะดูไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึง ...โอเคเลย ทรายซูฮก
 
มีโปรโมชั่นสำหรับการครบ 30 ปีของร้านด้วยนะคะ รีบๆๆๆเลยค้า ลดเยอะมากกกก
และก็อย่าคิดว่าที่ร้าน อาหารจะราคาแพงนะคะ ดูเซ็ทนี้ไม่แพงงงเลย คุ้มมาก ตกใจมาก เซ็ทนี้สำหรับอาหารกลางวันค่ะๆๆ
 
ช่วงนี้มีของขวัญสำหรับคุณผู้หญิงด้วย ทุกๆวันพุธที่ร้านจะแจกเต้าหู้เพื่อสุขภาพแก่ผู้หญิงทุกท่านเลยค่า รีบไปกันนะคะ ก่อนจะหมดช่วง… เต้าหู้นี้คืออันเดียวกับที่ทรายเล่าไว้ข้างต้นนะคะ และตอนนี้มีขายที่ฟูจิซุปเปอร์แล้วด้วยค่า เย่ๆๆ ไปซื้อกันได้เองเลย ลาขาดเต้าหู้เหม็นเขียวอีกต่อไป

 
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ
Post by : Varin the tale
นอกจากการทำสิ่งที่ต้องทำ เพื่อตัวเองและตอบแทนคุณผู้มีพระคุณ... เป้าหมายกว้างใหญ่ของทรายสีนั่นคือ การค้นพบและขยายเรื่องราวเอกลักษณ์อันเฉพาะ (Art of culture and talented) ของชาวไทยให้มีความภูมิใจและเด่นชัดในระดับนานาชาติ... Branding ประเทศไทยให้เป็น Land of talented... อย่างน้อยในฐานะคนไทยที่รักในหลวง ติดตามต่อได้ที่ เพจ Run The World

- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles