[review] รีวิวสไตล์ผู้ชายๆ เครื่องชงกาแฟสุดล้ำ ที่ล้ำตั้งแต่ดีไซน์ยันการใช้งาน Nescafe Dolce Gusto รุ่น Drop by ฟิล Men Enterprise

 
 
 

 
      เวลาที่ออกไปทำงานนอกบ้านหรือไปพบปะลูกค้า   ร้านที่ผมจะชอบไปนั่งก็จะเป็นร้านกาแฟสบายๆโดยที่บรรยากาศของร้านนั้นต้องดี ตกแต่งสวย และปลอดโปร่งนั่งสบาย   แต่ถ้าเกิดวันไหนต้องนั่งทำงานที่บ้านหรือทื่ออฟฟิศ สิ่งหนึ่งที่จะมาทดแทนบรรยากาศร้านสวยๆที่ไม่ได้สัมผัสในวันนั้นก็คงจะเป็นการได้ดื่มด่ำกับกาแฟร้อนๆหรือโกโก้อร่อยๆสักถ้วย   ซึ่งปกติผมก็ชงเองด้วยฝีมือการชงที่ห่างไกลจากบาริสต้ามากนัก  รสชาติของกาแฟที่ออกมาก็อยู่ในระดับที่รับได้ แต่ก็ไม่ได้เลิศเลอเหมือนกับที่ไปดื่มตามร้านกาแฟดีๆ  แต่ในที่สุด ผมก็ได้มารู้จักกับเทคโนโลยีการชงกาแฟที่โดนใจผมเข้าอย่างจัง  เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่สัมผัสถึงความล้ำสมัย  ใช้งานง่าย และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผมได้อย่างลงตัว

     วันนี้... ผม ฟิล จะมาทำการแกะกล่องรีวิวเจ้าเทคโนโลยีการชงกาแฟยุคใหม่ ซึ่งนั้นก็คือเครื่องชงกาแฟ Nescafe Dolce Gusto Drop ครับ  ( อ่านว่า ดอลเช่ กุสโต้ ดรอป )


 


ความล้ำของเครื่องนี้มันอยู่ที่ Nescafe Dolce Gusto Drop นี้เป็นเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล
 
มันแคปซูลยังไง ?

 
     อธิบายง่ายๆสั้นๆก็คือ  กาแฟและนมสำเร็จรูปจะถูกบรรจุอยู่ในถ้วยที่เรียกว่าแคปซูล สิ่งที่เราต้องทำก็คือใส่เจ้าแคปซูลนั้นเข้าไปในเครื่อง แล้วกาแฟก็จะบรรจงไหลออกมาอย่างสวยงามลงในในแก้วของเรา   ฟังดูง่ายใช่ไหมครับ...  ก็เพราะมันง่ายอย่างนั้นจริงๆ  เจ้าเครื่องนี้จึงเหมาะกับผู้ชายไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวกสบายแบบผม 
 
ในส่วนของแคปซูลเครื่องดื่มนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายครับ แล้วก็ไม่ได้มีแค่กาแฟเท่านั้น
 
ESPRESSO
ESPRESSO INTENSO
MOCHA
CAPPUCCINO
CHOCOCINO
CARAMEL LATTE MACCHIATO
LATTE MACCHIATO
RISTRETTO ARDENZA
GRANDE INTENSO
CAFE AU LAIT
LUNGO
ICED PEACH TEA
CAPPUCCINO ICE
GREEN TEA

มีให้เลือกเยอะมากครับ  แล้วก็ไม่ได้ชงได้เฉพาะเครื่องดื่มร้อน เครื่องดื่มเย็นก็มี



เรามาดูตัวเครื่องและการใช้งานกันดีกว่า

.

.

 
ในส่วนของตัวเครื่องและการใช้งานหลักๆที่เราต้องทำความรู้จักไว้ก็มีอยู่ 7 ส่วนครับ








1. แท็งก์เก็บน้ำ ที่ใช้สำหรับเติมน้ำเปล่าเข้าไป ซึ่งมีความจุ 0.8 ลิตร ( ใช้ชงกาแฟได้ประมาณ 5 แก้ว )




 






2. แท่นวางแก้ว ที่สามารถปรับระดับได้ 2 ระดับ ขึ้นอยู่กับขนาดความสูงของแก้วเรา






3. ปุ่มเปิดเครื่อง  กดไป 1 ครั้ง และรอไฟที่ปุ่มหยุดกระพริบก็สามารถใช้งานได้






4. ถาดบรรจุแคปซูล  ที่เราต้องดึงออกมาเพื่อใส่แคปซูลกาแฟของเราเข้าไป 





5. ตัวปรับระดับน้ำ  ซึ่งเป็นระบบสัมผัสใช้นิ้วเลื่อนขึ้น-ลง  ทำออกมาใช้งานง่ายและสวยโดนใจมากๆครับในส่วนนี้





6. ปุ่มกดเพื่อปล่อยน้ำ  มีให้เลือกทั้งแบบน้ำร้อนและน้ำปกติ
สีแดง : น้ำร้อน ใช้ชงเครื่องดื่มร้อน
สีน้ำเงิน : น้ำปกติ ( น้ำอุณหภูมิที่เราเติมเข้าไป ) ใช้ชงเครื่องดื่มเย็น

ซึ่งข้อดีของเจ้าเครื่องนี้ก็คือมันมีเทคโนโลยีที่ทำให้น้ำที่เราใส่ไปนั้นร้อนได้เร็วมาก ไม่ต้องเสียเวลารอต้มน้ำนานเลยทีเดียว






7. ถังใส่แคปซูลที่ใช้แล้ว  ซึ่งหลังจากดึงแคปซูลออกมาก็สามารถนำมาใส่ไว้ในถังนี้ก่อนนำไปทิ้งแลทำความสะอาด



รู้จักตัวเครื่องกันไปแล้ว น่าจะพอเห็นภาพว่าการใช้งานมันคงจะง่ายมากแน่ๆ

ลองมาดูตัวอย่างการใช้งานจริงเลยครับ

.
.
.





ตัวแรกที่ผมจะลองก่อนเลยก็คือ Espresso Intenso 
กาแฟช็อตสำหรับที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่การความเข้มข้นของกาแฟแบบเน้นๆ และต้องการฉีดคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว





ข้างในกล่องจะบรรจุแคปซูลกาแฟอยู่ 16 แคปซูลนะครับ  ซึ่งนั้นหมายความว่าเราจะชงได้ 16 ถ้วยด้วยกัน
ราคากล่องนี้อยู่ที่ 349 บาท
16 ถ้วย ก็ตกถ้วยละ 22 บาท   ( ราคาโอเคเลยครับ )

 
เอาละ  มาเริ่มชงกันเลยดีกว่า

วิธีชงนั้นไม่ยากเลย  มีแค่ 3 ขั้นตอนเท่านั้น



1. ดึงถาดบรรจุแคปซูลออกมา แล้วก็ใส่แคปซูลเข้าไป  ( ตามภาพเลยครับ )





.
.

2. เลือกระดับน้ำ  โดยดูระดับน้ำที่ต้องใช้ได้ที่แคปซูล แล้วก็ปรับระดับตามนั้นเลยครับ



สำหรับ Espresso ตัวนี้ ใช้ระดับน้ำ 2 ขีด
ใช้นิ้วเราเลื่อนขีดสีเขียวขึ้นไป 2 ขีด ก็เป็นอันเรียบร้อย



.
.

3. กดปุ่มปล่อยน้ำร้อน
( แล้วก็อย่าลืมหาแก้วมาวางรอรับกาแฟก่อนกดปุ่มนะครับ )





เป็นอันเสร็จครับ !
ได้กาแฟมาแล้วหนึ่งถ้วย
ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ได้กาแฟคุณภาพดีมาอย่างรวดเร็ว 




ในส่วนของรสชาติของ Espresso Intenso ช็อตนี้นั้นมีความเข้มข้นสมกับเป็น Espresso โดยแท้จริงครับ

กลิ่น : หอมเมล็ดกาแฟครับ   ผ่าน !
รสชาติ : เข้มข้น รสชาติดีไม่ต่างจากไปนั่งกินที่ร้านกาแฟ    ผ่าน !

ดื่มแล้วนึกไปถึงผู้ชายลุคเข้มๆที่มีความจริงจัง  มีความดุดัน  แต่ก็มีความอ่อนโยนปนอยู่ด้วย

สรุป... ชอบครับ !


 
มาดูกันที่รสชาติต่อไป

.
.
.



กาแฟเน้นฟอง...  Cappuccino

ตัวนี้ขั้นตอนการชงจะแตกต่างจาก Espresso นิดนึงนะครับ เนื่องจากต้องใช้ 2 แคปซูลในการชง
ราคากล่องละ 329 บาท
หนึ่งกล่องสามารถทำได้ 8 ถ้วย ซึ่งก็จะตกถ้วยละ 41 บาท



แคปซูลสีขาว : นม  
แคปซูลสีดำ : กาแฟ
ซึ่งการชง Cappuccino เราต้องใช้ทั้งนมและกาแฟผสมกันครับ


1. อันดับแรกนะครับ ต้องใส่แคปซูลสีขาวซึ่งเป็นนมเข้าไปก่อน และเลือกระดับของน้ำครับ
( ใส่แคปซูลสีไหนก่อน และเลือกระดับน้ำเท่าไร สามารถดูได้จากกล่องกาแฟเลยครับ )





.
.

2. กดปุ่มน้ำร้อน ( สีแดง ) เพื่อให้นมไหลออกมาก่อน



.
.

3. เมื่อนมไหลออกมาจนหมดแล้ว 
ให้ดึงถาดใส่แคปซูลออกมา แล้วเอาแคปซูลสีขาวทิ้งไป พร้อมทั้งใส่แคปซูลกาแฟสีดำเข้าไปต่อเลยครับ



.
.

4. เลือกระดับน้ำที่ระบุไว้บนแคปซูล  ( สำหรับแคปซูลนี้คือ 1 ขีด )





กาแฟก็จะไหลออกมาผสมกับนม  เป็นอันเสร็จครับ !





กลิ่น : ยังคงหอมอยู่  ผ่าน !
รสชาติ :  หวานแบบพอดีๆ  ผ่าน !

 ในส่วนของรสชาติก็จะถูกแต่งมาให้แบบเป็นกลางๆ ถ้าใครจะเติมน้ำตาลหรือไซรัปเพิ่มเติมก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ  
 
 
มาต่อกันที่รสชาติสุดท้ายที่เอามาลองให้ดูครับ

.
.
.




ครางนี้มาลองดูเครื่องดื่มเย็นกันบ้างครับว่าจะเป็นยังไง
Cappuccino เหมือนกันครับแต่เป็น Cappuccino Ice



มี 2 แคปซูลครับ

สีขาว : นม   
สีเทา : กาแฟ

ราคากล่องละ 299 บาท
หนึ่งกล่องทำได้ 8 แก้ว  ก็จะตกแก้วละ 37 บาทครับ



1. อันดับแรกเตรียมน้ำแข็งใส่ไว้ในแก้วรอเลยครับ



.
.

2. ใส่แคปซูลสีขาวลงไปก่อน 
เลือกระดับของน้ำ แล้วก็กดปุ่มปล่อยน้ำสีน้ำเงินครับ



อย่าเผลอกดสีแดงนะครับ เดี๋ยวจะได้ดื่มกาแฟร้อนแทน





นมก็จะไหลลงไปในแก้วน้ำแข็งครับ
มาถึงตรงนี้ใครจะเปลี่ยนใจมาดื่มนมเย็นแทนก็ดึงแก้วออกได้ทันทีเลยครับ ไม่ต้องทำขั้นตอนถัดไปแล้ว ฮ่าๆ



.
.

3. ใส่แคปซูลสีเทาซึ่งเป็นตัวกาแฟลงไป
เลือกระดับน้ำ เสร็จแล้วก็กดปุ่มสีน้ำเงินปล่อยน้ำได้เลยครับ




.
.



และแล้วเราก็จะได้มาซึ่ง Cappuccino Ice อย่างที่เห็น

หลังจากได้ลองดื่มดูแล้ว  บอกได้เลยว่าผมชอบแก้วนี้ที่สุด เพราะรสชาติหวานแบบกำลังดีมาก
หลังจากดื่มกาแฟร้อนไป 2 ถ้วยติดแล้วมาดื่มแก้วเย็นๆแก้วนี้ต่อ สดชื่นขึ้นมากครับ

** สามารถหาซื้เครื่องชงกาแฟ Dolce Gusto ออนไลน์จากแบรนด์ Nescafe ได้โดยตรงที่ https://nescafedolcegusto.popsho.ps/th/ **

.
.

สรุป !

สิ่งที่ชอบในตัวเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล Nescafe Dolce Gusto


1. Design ทำออกได้เฟี้ยวโดนใจมากๆ  ถ้าเปรียบเสมือนกับรถยนต์ก็เปรียบได้กับความสวยงามของรถสปอร์ตสมัยใหม่
2. ความง่ายดายในการใช้  ลองฝึกทำครั้งเดียวก็จะใช้เป็นเลยครับ
3. ประหยัดเวลาการชงกาแฟได้มาก
4. ได้รสชาติกาแฟที่ทุกแก้วชงออกมาได้มาตรฐานเดียวกันหมด
5. ราคาสมเหตุสมผลโดยที่เครื่องชงกาแฟ Drop อยู่ที่ 7,990 บาท แต่มีเครื่องประเภทอื่นอีก ราคาตั่งแต่ 3,490 - 7,990 บาท (แอบกระซิบว่า ลองเข้าไปดูในแฟนเพจ https://www.facebook.com/NescafeDolceGustoThailand จะเห็นมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เรื่อยๆ ครับ)


โดยส่วนตัวแล้วเครื่องนี้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผมได้ดีมาก 
แล้วถ้าใครเอาไปตั้งไว้ที่ออฟฟิศ ผมรับรองว่าพนักงานจะรักท่านมากขึ้นแน่นอน ฮ่าๆ
 
แล้วพบกันในบทความรีวิวครั้งต่อๆไปนะครับ

ขอบคุณครับ






 

ถ้าชอบบทความก็สามารถกดแชร์ให้กำลังใจกันได้นะครับ 

ขอบคุณมากครับ



 
Created date : 14-02-2016
Updated date : 14-02-2016
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ
Post by : The ConPhilDent

ผมเชื่อว่าการที่ประเทศจะพัฒนาขึ้นได้นั้น เกิดจากคุณภาพของความสุขที่เกิดขึ้นในสังคม และนั้นก็เป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายที่จะส่งมอบสิ่งเหล่านั้นให้แก่ครอบครัว คนรัก และสังคมของเขาครับ ผู้ชาย... แค่เกิดมาก็เป็นได้ แต่ “ลูกผู้ชาย”  ...มันขึ้นอยู่กับที่คุณจะเลือก ติดตามเพจที่ www.facebook.com/MenEnterprise


- Goto Top -
Lastest Update
 
Other Articles