... พลิกกระดาน สู่ความรุ่งเรืองของ วอลต์ ดิสนีย์ ...
......................
เส้นทางความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน เพราะก่อนที่คนเราจะประสบความสำเร็จ จะต้องอาศัยทั้ง การทุ่มเทอย่างหนัก ความอดทน และต้องเผชิญกับอุปสรรคความท้าทายมากมาย ซึ่งอุปสรรคที่เกิดขึ้น จนทำให้เกิดความล้มเหลวหลายครั้ง อาจจะเป็นสิ่งที่ดีต่อเราก็ได้ ซึ่งความล้มเหลวเหล่านี้แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นในการนำเราไปสู่ความสำเร็จ
ภาพจาก:http://www.prachatalk.com
เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเหล่าเซเลบคนดัง เช่น ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน , วอลต์ ดิสนีย์ และอีกหลายคนที่กว่าจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคเหล่านี้มามากมาย ใครจะเคยรู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเคยอยู่ในจุดที่ "ต่ำสุดของชีวิต" แต่ท้ายที่สุดแล้วการทุ่มเทอย่างหนักและความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็ได้นำพาพวกเขาให้ไปถึงยังฝั่งฝันและกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นมากมาย
ถ้าคุณเคยรู้สึกหมดหวังหรือรู้สึกล้มเหลวในชีวิต และต้องการสิ่งที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ นี่อาจจะเป็นเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ของเหล่าคนดังที่จะมาจุดประกายฝันและสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อให้คุณมีแรงฝ่าฟันกับอุปสรรคและกลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างพวกเขาได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงจุดต่ำสุดในชีวิตของ วอลต์ ดิสนีย์ และจุดพลิกผันที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ภาพจาก:https://twitter.com/thestandardth
เรื่องราวแรกที่เราจะนำมาเล่าให้คุณฟังก็คือ เรื่องราวของ วอลต์ ดิสนีย์ เขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวในชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ความล้มเหลวเหล่านั้นเริ่มต้นจากที่เขาถูกไล่ออกจากวารสาร Kansas City Star เพราะ “ถูกมองว่ายังขาดจินตนาการและไม่ค่อยมีไอเดียดีๆ เอาซะเลย” คุณคงไม่เคยรู้ว่า ตัวการ์ตูนมิกกี้ เมาส์ในปัจจุบัน เคยถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี เพราะคิดว่าหน้าตามันน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็กผู้หญิง
อีกทั้งการ์ตูนลูกหมูสามตัวก็ยังเคยถูกปฏิเสธด้วย สาเหตุเพียงเพราะมันมีตัวละครในเรื่องเพียงแค่ 4 ตัว และเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้งเมื่อธุรกิจแรกในชีวิตของ วอลต์ ดิสนีย์ คือ Laugh-O-Gram animation studio ก็ยังถูกฟ้องล้มละลายอีกด้วย
ภาพจาก:https://maison.blog.hu
การฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตของเขาได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาได้ก่อตั้ง บริษัท เดอะ วอลต์ ดิสนีย์ (The Walt Disney) ผลงานที่สร้างรายได้แบบถล่มทลายของดิสนีย์ คือ การได้สร้างการ์ตูนชื่อ “ออสวอลท์เจ้ากระต่ายที่โชคดี” ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก และถูกนำมาฉายโดยยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส
แต่ต่อมายูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สไม่เพียงแต่นำลิขสิทธิ์ผลงานชิ้นนี้ของเขาไป แต่กลับชักชวนทีมงานที่สร้างการ์ตูนเรื่องนี้ไปร่วมงานกับยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สอีกด้วย
ยกเว้นเพียงดิสนีย์กับเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง มาถึงตรงนี้ไม่เพียงแต่ตัวของดิสนีย์เอง แต่หลายคนคงคิดว่าเขาโชคร้ายที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในชีวิต
อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์กับเพื่อนสนิทได้พยายามคิดตัวการ์ตูนขึ้นมาใหม่ ในปี 1928 ขณะที่เขากำลังนั่งอยู่บนขบวนรถไฟ ในหัวของเขามีภาพหนูที่มีหูกลมใหญ่ กางเกงแดงขึ้นมา ทำให้เขาลงมือวาดมันขึ้นและตั้งชื่อว่า “มอร์ติเมอร์”
เมื่อเอากลับไปให้ภรรยาดู ภรรยาของเขารู้สึกว่าน่าจะใช้ชื่ออื่นที่ดีกว่า
จึงตั้งชื่อหนูตัวนี้ว่า “มิกกี้ เมาส์”
ภาพจาก:http://www.thaismescenter.com
หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้ ความสำเร็จของมิกกี้ เมาส์ ทำให้เกิดโดนัลด์ ดั๊ก กูฟฟี่ พลูโต ปีเตอร์แพน และสโนไวท์ ตามกันมา รวมไปถึงสวนสนุกที่ยิ่งใหญ่ของโลกอย่างดิสนีย์แลนด์ จนสร้างความโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันบริษัทกวาดเงินไปได้กว่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐแล้ว เคยมีข่าวลือว่า เขาเคยถูกปฏิเสธงานมามากกว่า 302 ครั้ง ก่อนที่จะทำเงินได้มหาศาลขนาดนี้
ภาพจาก:http://www.e-toyotaclub.net
[ อย่างที่ได้กล่าวมา ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งของที่ได้มาง่ายๆ
ใครที่ได้อ่านคงได้แรงบันดาลใจในการต่อสู้ตามล่าความฝันกันแน่ๆ อย่าท้อถ้ายังไม่ถึงฝัน ]
*********
สนใจติดตามข้อมูล อ่านต่อได้ที่
https://www.facebook.com/Pantae.fan
อ้างอิงจาก : http://longtunman.com , https://www.sumrej.com
เรียบเรียง : กัน
กดติดตามกัน เพื่อรับเรื่องราวดีๆ